วันพฤหัสบดีที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2552

GOOGLE ANALYTIC

ตอนแรกผมกะว่าจะลองรวบรวมข้อูลเรื่อง GOOGLE ANALYTIC ดู

แต่ก็ยังไม่เห็นว่ามีที่ไหนที่เหมาะ ในจำนวนปริมาณที่สูงๆ พอที่จะรวบรวมมาไว้ให้ไปหาอ่าน

แต่เจอ blogที่หนึ่ง บทความเขียนได้น่าสนใจมากครับ

มากที่สุด ตั้งแต่ลอง sreach มา เลยยกลิ้งให้เพื่อนตามไปอ่านกันเองแล้วกันนะครับเห็นสงวนลิขสิทธ์ด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมากๆ

เคยเรื่องลิขสิทธ์อยู่เหมือนกัน โดยวันหลังผมจะมาอธิบายให้ทราบนะครับ

ตามไปดู Google Analytic จากที่นี้ันเลยดีกว่าครับ

http://blog.maxincube.com/analytics/for-newbies/7-faq-on-google-analytics-chapter-6-google-analytics-account

วันจันทร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2552

จ่ายเมื่อแสดง (Pay Per Impression)

ความสงสัยผมเริ่มทำงานอีกแล้ว เมื่อ ผมเริ่มคิดว่า จะได้เงินเมื่อไรเน้อ

ทำให้เห็นทำหนึ่งว่า Page impressions เลยสงสัย ว่ามันคือ อะไร

ก็เลยเริ่มหา ใน google อีกครั้ง

และก็ได้ บทความหลายๆบทความที่น่าสนใจ
----------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------

วิธีการคำนวณรายได้จาก Adsense

รูปแบบการได้รายได้จากการนำโฆษณาของ Adsense มาติดไว้ที่เว็บไซต์เราจะเป็นรายได้ที่เกิดจากเว็บไซต์ต่างๆ มาลงโฆษณากับทาง Google และเมื่อมีการโฆษณาเกิดขึ้นผ่านหน้าเว็บไซต์เรา รายได้ก็จะมีการแบ่งกันระหว่างเว็บไซต์เรา กับ Google ผู้ซึ่งนำโฆษณามาลงให้ โดยมีอยู่ 2 รูปแบบได้แก่ รายได้เมื่อมีการคลิกโฆษณาที่แสดงอยู่ในหน้าเว็บไซต์เรา (Pay Per Click - PPC) และรายได้จากการแสดงโฆษณา (Pay Per Impression)

* จ่ายเมื่อคลิก (Pay Per Click)

Google จะจ่ายเงินให้กับเราทุกครั้งเมื่อมีคนคลิกโฆษณาในหน้าเว็บไซต์ของเราเท่า นั้น ดังนั้นหากโฆษณาของ Google จะแสดงผ่านสายตาของผู้เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์นับพันๆครั้ง เราก็จะไม่มีรายได้จากการแสดงนั้น นอกเสียจากจะมีการคลิ๊ก

* จ่ายเมื่อแสดง (Pay Per Impression)

รูป แบบการจ่ายเงินจะคิดตามจำนวนครั้งในการแสดงของโฆษณา โดยจะคิดต่อการแสดงของโฆษณา 1,000 ครั้งต่อการจ่าย หรือเราเรียกวิธีนี้ว่า CPM โดยไม่นับว่าจะมีการคลิกทั้งหมดกี่ครั้งก็ตาม

ที่มาhttp://adsensethailand.exteen.com/20070616/adsense-5
-----------------------------------------------------------------------------------------

1. AdSense for Content โฆษณาที่เกี่ยวกับเนื้อหาในเว็บของเรา (มีทั้งแบบข้อความ และ รูปภาพ)
Google จะให้คุณสร้าง Code ขึ้นมาเพื่อนำโฆษณามาติดที่เว็บไซต์ของคุณ ในส่วนนี้คุณสามารถกำหนดขนาด ความกว้าง ความสูง สี ของโฆษณาได้ ซึ่งจะมีทั้งแบบข้อความ และ แบบรูปภาพ (ในส่วนของรูปภาพไม่สามารถกำหนดสีได้ นะครับ แต่กำหนดขนาดได้) การกำหนดสีได้นี้มีผลดีตรงที่ เราสามารถกำหนดให้กลมกลืนกับสีเว็บไซต์ของเรา หรือกำหนดให้สวยงาม
โดยโฆษณาที่ปรากฎในเว็บไซต์นั้น Bot ของ Google จะสำรวจเนื้อหาภายในเว็บไซต์ หากข้อมูลในเว็บเกี่ยวกับเรื่องอะไร Google ก็จะส่งสินค้าประเภทนั้นๆ เข้ามา เช่น หน้าเว็บของคุณมีคำว่า Game สินค้าที่ส่งมาก็จะเป็นพวก Game หรือคุณทำเว็บเกี่ยวกับ Sport (กีฬา) สินค้าที่ส่งมาก็จะเป็นพวกที่เกี่ยวกับกีฬา เช่น football golf ฯลฯ เป็นต้น

การจ่ายเงินในบริการนี้ จะจ่าย 2 กรณี คือ
1.1 Pay Per Click (จ่ายเมื่อคลิก) เมื่อมีคนคลิกโฆษณา Google ก็จะจ่ายค่าคลิกให้เราทันที
1.2 Pay Per Impression (จ่ายเมื่อโฆษณาแสดง) เมื่อนำโฆษณาไปติด Google ก็จะคิดค่าโฆษณาให้ แต่โดยทั่วไปต้องแสดง 1,000 ครั้งจึงจะได้เงินและได้ไม่มากเท่าไหร่นัก

ที่มา http://www.thaifreescript.com/adsense/01-intro.html
-----------------------------------------

• จ่ายเมื่อคลิก (Pay Per Click)
เมื่อคนที่เข้าชมเว็บไซต์ของคุณ คลิกที่โฆษณาของ Google AdSense ซึ่งแต่ละคลิกจะได้ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับผู้ที่ทำ Google Adwords จ่ายให้ Google มากน้อยเท่าไร ถ้าจ่ายให้มากคุณก็จะได้มากด้วยเช่นกัน
• จ่ายเมื่อแสดงโฆษณา (Pay Per Impression)
อันนี้จะจ่ายให้คุณเมื่อมีการแสดงโฆษณา ครบ 1,000 ครั้ง โดยไม่นับว่าจะมีคนคลิกกี่ครั้งก็ตาม คุณจะไม่ได้รายได้จากการคลิก

Page impressions 1130 Ads ที่แสดงในหน้าเว็บของคุณอาจเป็นแบบ จ่ายเมื่อคลิก (Pay Per Click) จึงไม่มีการคิดเงินให้คุณ

ที่มา http://www.makemoney.bcoms.net/webboard/detail.asp?id=56
-------------------------------------------------------------------------------------------------
เอาไว้ดูครับ ว่ามีการเปิดหน้าที่ติดแอดเรากี่ครั้งแล้ว
bugmai

ที่มา http://www.google.com/search?q=%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99+adsense&sourceid=navclient-ff&ie=UTF-8&rlz=1B3DVFA_enTH236TH239&aq=t
----------------------------------------------------------------------------------------------
รูปแบบรายได้จาก Google Adsense
อย่างที่ได้บอกไว้ว่าโฆษณาเหล่านี้มาจากบริษัทธุรกิจทั่วโลกที่ต้องการโฆษณาสินค้า บริการของตนเองผ่านทาง Google ซึ่งก็จะต้องจ่ายค่าโฆษณาให้กับทาง Google เมื่อคุณนำโฆษณามาติดที่เว็บไซท์ของคุณ รายได้ของคุณก็จะมาจากเงินที่ผู้ลงโฆษณาจ่ายให้กับ Google ซึ่งทาง Google จะแบ่งรายได้ส่วนนั้นมาให้คุณด้วย โดยกรณีที่คุณจะได้เงินก็คือ

1. เมื่อมีการคลิกที่โฆษณาในเว็บไซท์ของคุณ รูปแบบนี้เรียกว่า PPC (Pay Per Click) หรือ จ่ายเมื่อคลิก วิธีการนี้ถ้าผู้เยี่ยมชมเว็บไซท์ของคุณไม่ได้คลิกที่โฆษณา ต่อให้แสดงโฆษณาไปสักกี่ครั้งคุณก็ไม่ได้เงิน คุณจะได้เงินต่อเมื่อมีการคลิกที่โฆษณาเท่านั้น
2. เมื่อมีการแสดงโฆษณาที่เว็บไซท์ของคุณ (Pay Per Impression) หรือ จ่ายเมื่อแสดง โดยคิดตามจำนวนครั้งในการแสดงโฆษณาบน
เว็บไซท์ของคุณ ตามอัตราส่วนการแสดงโฆษณา 1000 ครั้งต่อการจ่าย 1 ครั้ง วิธีการนี้เรียกว่า CPM (Cost Per Thousand Impression) โดยไม่นับการคลิก ไม่ว่าจะคลิกกี่ครั้งก็ตาม ต้องแสดงโฆษณาครบ 1000 ครั้งเท่านั้นคุณถึงจะได้เงิน ดูตัวอย่างการแสดงรายได้ที่ท่านจะได้รับจากภาพ
คุณจะมี Account เพื่อสามารถตรวจสอบสถิติทั้งหมด ทั้งอัตราการคลิก เงินรายได้ที่ได้รับ ฯลฯ

ที่มา http://eduso.coolfreepage.com/
-------------------------------------------------------------------------------------------------

จนมาถึงตรงนี้แล้ว ผมก็ยังสงสัยอยู่
สรุป ถ้ามันโชว์ ครบ 1000 ครั้งแล้ว ผมจะได้เงิน กี่ ดอล

มีความเห็นหลายหลาก

ดังนั้น บทความนี้ยังไม่สามารถตอบคำถามค้างในผมได้

เมื่อ มันครบ เมือ่ไร ผมจะมาเล่าให้ฟังอีกครัั้งนะครับ

เพราะตอนนั้นผมคงมีคำถามใหม่ๆ ที่ต้อง หาคำตอบอีก

วิธีสมัคร adsense รวมคำแปล การสมัคร adsense

พูดความจริงว่าก่อนที่ผมจะตัดสินใจสมัคร adsense นั้ัน ค่อนข้างคิดมาก เหมือนกัน ด้วยเป็นคนขี้สงสัย และอีกทั้งไม่รู้ว่าจะทำเว็บอะไรดี

แต่ผมก็เปลียนความสงสัยเป็นเวบได้ โดยใช้กิวัตรประจำวัน ที่ชอบอ่าน ชอบรู้ และ หาข้อมูลใน Google มาตลอด

--------------------------------------------------------------------------
--------------------------------------------------------------------------
วิธสมัคร Google AdSense

ใน ขณะนี้ Google Adsense ยังไม่รองรับภาษาไทย แต่อีกไม่นานนี้ จะรับเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาที่เป็นภาษาไทยด้วย (ให้ทำเว็บเป็นภาษาอังกฤษ) การสมัครให้คลิกที่ Sign up now >> แล้วกรอกข้อมูลต่าง ๆ ตามที่ Google กำหนด แล้วรอการตอบรับจาก Google ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน ในการตรวจสอบข้อมูล

ข้อมูลที่ต้องกรอกในการสมัคร

Website URL: [?] ใส่ชื่อเว็บของคุณ ตัวอย่างเช่น www.bcoms.net

Website language: เลือกภาษา ให้คุณเลือกเป็น English ครับ

Account type: [?] เลือกประเภทของเว็บคุณ ว่าเป็นเว็บส่วนตัว หรือเว็บเกี่ยวกับธุรกิจ

Country or territory: เลือกประเทศ ในที่นี้เลือกประเทศไทยครับ

Payee name (full name): ใส่ชื่อผู้รับเงิน

** หมายเหตุ คุณไม่สามารถเปลี่ยนชื่อผู้รับเงิน และประเทศได้ หลังจากที่คุณสมัคร ให้ดูดี ๆ ว่ากรอกถูกต้องหรือไม่

Address line 1: , Address line 2 (optional): ใส่ที่อยู่

City: แขวง/ตำบล

State, province or region: จังหวัด

Zip or postal code: รหัสไปรณีย์

Phone: เบอร์โทรศัพท์ เช่น 02-2345868 ก็ให้กรอก 6622345868 หรือ 04-0077562 ก็เป็น 6640077562

Fax (optional): เบอร์ Fax

Email preference: ให้ติ๊กเครื่องหมายถูกครับ (อันนี้ Google จะส่งข้อมูลข่าวสาร รวมถึงทิปต่าง ๆ มาให้คุณครับ)

Product(s): [?] ให้ติ๊กเครื่องหมายถูกทั้ง 2 อันเลยครับ ทั้ง AdSense for Content และ AdSense for Search

Policies ให้ติ๊กเครื่องหมายถูกทั้งหมดเลยครับ อันนี้เป็นข้อตกลงของ Google เช่น จะไม่คลิกโฆษณาบนเว็บของตัวเอง

หรือให้คนอื่นคลิก ,ไม่โฆษณาในเว็บที่ไม่เหมะสม ลามกอนาจาร เป็นต้น

Email address: ใส่อีเมล์ของคุณ

Password: ใส่รหัสผ่าน (7 ตัว หรือมากกว่านั้น)

Re-enter password: ใส่ รหัสผ่าน ซ้ำอีกครั้ง

** หมายเหตุ ข้อมูลของคุณต้องกรอกเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด

เมื่อกรอกรายละเอียดต่าง ๆ ครบแล้วให้คลิกที่ Submit Information
หลังจากนั้นให้คุณไปเช็คอีเมล์ที่ได้สมัครไว้ เพื่อยืนยัน เมื่อยืนยันแล้วให้รอประมาณ 2-3 วัน เพื่อ Google ตรวจสอบข้อมูลของคุณ และจะส่งอีเมล์มาแจ้งว่าคุณสมัครผ่านหรือไม่ ถ้าคุณผ่านการสมัครแล้ว ก็ให้อ่าน วิธีเอา Code ไปติดที่เว็บคุณ ต่อนะครับ

เว็บไซต์ที่ Google ห้ามไม่ให้สมัคร (ถึงสมัครไปก็ไม่ผ่าน)
• ความรุนแรงต่อต้านบุคอื่นกลุ่มหรือองค์กร
• Hacking
• Spam Keyword
• เว็บไซต์การพนัน
• โฆษณาทำเพื่อโฆษณาเพียงอย่างเดียว โดยไม่มีเนื้อหาอย่างอื่นเลย
• เนื้อหาที่ผิดกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
• สิ่งกระตุ้นให้ผู้ใช้ บุคคลที่สามมาแสวงหาผลประโยชน์
• อาวุธสงคราม
• ขายเครื่องดื่มที่มีแอลกฮอล
• บุหรี่
• การปลอมแปลงสินค้า
• เวปที่โกหกหลอกหลวง
• เว็บลามกอนาจาร

ที่มา http://tteen.igetweb.com/index.php?mo=3&art=262891
--------------------------------------------------------------------------------------

วิธีการสมัคร adsense ให้ผ่านสร้างรายได้ออนไลน์จาก blog

ในการสมัครให้ได้ Account ของ adsense ก็ไม่ยากครับ ลองมาดูขั้นตอนการสมัครให้ได้ account ของ google adsense กันครับซึ่งก็มีข้อจำกัดอยู่หลายอย่าง เช่น ตอนนี้ทาง google ยังไม่มีนโยบายรับเว็บไซต์ที่เป็นภาษาไทย เว็บไซต์ที่มีความสลับซับซ้อนหรือ graphics มากๆส่วนใหญ่จะไม่ผ่าน สำหรับ web master มือใหม่ทั้งหลายที่ยังไม่อยากลงทุนมากนัก ก็สามารถใช้บริการของฟรีได้ที่ blogger ซึ่งเป็นบริการฟรีของ google โดยไม่ต้องไปจดโดเมนเนมในราคาปีละ 300-500 บาทซึ่งแล้วแต่เราจะไปสมัครกับนายหน้า(reseller)บริษัทไหน แต่ชื่อโดเมนที่ได้จะ
เป็น .blogspot.com และก็ไม่ต้องเสียค่าเช่า hosting อีกเป็นหลักพันบาทต่อปี หรือถ้าหากใครอยากได้โดเมนที่มีชื่อเป็น .com,.net,etc ก็สามารถไปเลือกจดได้ตามใจชอบครับ3 ขั้นตอนสุดง่ายให้ได้บัญชีของ google adsense
1. สมัครใช้ฟรีบล๊อค
2. ลงมือเขียนเรื่องที่สนใจเป็นภาษาอังกฤษ
3. สมัครขอบัญชี google adsense

มาเริ่มสมัคร blogger กันเลยดีกว่าครับ หรือใครจะใช้ฟรีบล๊อคตัวอื่นก็ไม่ว่ากัน แต่ที่ผมเลือกใช้ blogger เพราะจะได้เครดิตจาก google และโอกาสที่จะสมัครได้บัญชี adsense ก็สูงไปด้วย
ในขั้นแรก...สำหรับผู้ที่มีบัญชีของ gmail อยู่แล้วสามารถ login เข้าไปใช้ blogger ได้ทันทีที่หน้าเว็บ http://www.blogger.com หรือจะสมัครขอบัญชีของ blogger เองก็ได้ครับ เมื่อได้บัญชีมาเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาที่จะลงมือเขียน blog กันซะที! ก็มาถึงขั้นตอนการ create a blog หรือสร้างบล๊อค โดยคลิ๊กที่ tab create a blog จากนั้นก็ให้ใส่ชื่อ(blog title) และก็ blog address(url) ในการตั้งชื่อ url นี้ถ้าจะให้ดีไม่ควรจะยาวเกินไปและสื่อความหมายที่สัมพันธ์กับเนื้อหาภายใน เว็บไซต์ได้เป็นอย่างดี และก็ควรที่จะทำให้ blog มีเนื้อหาที่ดีและทุ่มเทอย่างเต็มที่ มันจะทำให้ blog ของคุณมีคนเข้ามาแวะเยี่ยมชมบ่อยๆ มาถึงการปรับแต่ง และใส่เนื้อหาเข้าไปใน blogger ของเรา ในช่วงแรกควรจะทำเนื้อหาที่เป็นภาษาอังกฤษ หรือถ้าหากจะให้มีภาษาไทยด้วย ก็ควรให้น้อยกว่าภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะในหน้าแรก menu หรือ content ต่างๆควรเป็นภาษาอังกฤษให้หมดครับ เมื่อใส่เนื้อหาเสร็จแล้วก็ถึงเวลาที่เราจะไปสมัครเพื่อขอบัญชี adsense จาก google
Tips! ...สำหรับ ใครที่ไม่เก่งภาษาอังกฤษ ก็ลองไปเอาเนื้อหาจากเว็บไซต์ต่างๆประเทศมาใส่ไปก่อน แล้วค่อยปรับปรุงทีหลัง แต่อย่าไปลอกมาทั้งหมด และก็อย่าลืมทำ back link อ้างอิงกลับไปยังเว็บไซต์เพื่อมารยาทที่ดีด้วยนะครับ

การสมัคร adsense โดยเข้าไปที่หน้าเว็บไซต์ของ google adsense
http://www.google.com/adsense

จากนั้นเลือก click here to apply แล้วก็ใส่รายละเอียดข้อมูล
Website URL: [?] ใส่ชื่อเว็บไซต์ของคุณ ตัวอย่างเช่น http://siammoney.net/
Website language: เลือกภาษา ให้เลือกเป็นภาษา English
Account type: [?] เลือกประเภทของเว็บไซต์ ว่าเป็นเว็บส่วนตัว หรือเว็บเกี่ยวกับธุรกิจ
Country or territory: เลือกประเทศ ให้เลือกเป็นประเทศไทย
Payee name (full name): ใส่ชื่อผู้รับเงิน

Tip!... ชื่อผู้รับเงินและประเทศ ไม่สามารถเปลี่ยนได้ในภายหลัง ควรเช็คให้ถูกต้องก่อน สมัครด้วยความระมัดระวัง และข้อมูลต้องกรอกเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด

Address line 1: , Address line 2 (optional): ใส่ที่อยู่
City: แขวง/ตำบล
State, province or region: จังหวัด
Zip or postal code: รหัสไปรณีย์
Phone: เบอร์โทรศัพท์ เช่น 02-xxxxxxx ควรกรอก 662xxxxxxx หรือ 081-xxxxxxx ก็เป็น 6681xxxxxxx
Fax (optional): เบอร์ Fax
Email preference: ให้ใส่เครื่องหมายถูก ( Google จะส่งข้อมูลข่าวสารรวมถึงทิปต่าง ๆ มาให้ทาง mail)
Product(s): [?] ให้ใส่เครื่องหมายถูกทั้ง 2 ข้อ ทั้ง AdSense for Content และ AdSense for Search
Policies ให้ใส่เครื่องหมายถูกทั้งหมดเลยครับ อันนี้เป็นข้อตกลงของ Google เช่น จะไม่คลิกโฆษณาบนเว็บของตัวเอง หรือให้คนอื่นคลิก ,ไม่โฆษณาในเว็บที่ไม่เหมะสม ลามกอนาจาร เป็นต้น
Email address: ใส่อีเมล์ของคุณ

เมื่อกรอกรายละเอียดต่าง ๆ ครบแล้วให้ คลิ๊กที่ Submit Information จะไปที่หน้าแสดงข้อมูลที่เรากรอกไปแล้วและให้เราตรวจสอบให้แน่ใจว่าถูกต้อง โดยส่วนข้างล่าง จะให้เลือกวิธีการ login เข้า account โดยถ้าเลือกข้อแรกในกรณีที่เราใช้บริการในเครือ google เช่น Adwords,gmail,etc ถ้าหากมี บัญชี gmail อยู่แล้ว จึงเลือกใช้ข้อนี้ หรือถ้าหากใครที่มี email อื่นและต้องการ password ใหม่ก็เลือกข้อสองครับ เมื่อเลือกเสร็จแล้วคลิ๊ก Contiune ถ้าหากว่าไม่มี errors ปรากฏก็เป็นอันว่าการสมัครเสร็จเรียบร้อยครับ
หลังจากนั้นเข้าไปเช็คในอี เมล์ที่ได้สมัครไว้ เพื่อยืนยันหลังจากนั้นให้รอประมาณ 2-3 วัน เพื่อที่ Google จะตรวจสอบข้อมูล และจะส่งอีเมล์แจ้งกลับมาว่าสมัครผ่านหรือไม่

เมื่อสมัครผ่านเรียบร้อยแล้ว ให้ทำการ Login เข้าไปที่หน้าเว็บไซต์ของ Google Adsense
เมื่อเข้า Login คร้งแรกจะปรากฎหน้าอธิบายเกี่ยวกับข้อกำหนดของการใช้ Google AdSense ให้ คลิกยอมรับ
ต่อจากนั้น ให้ยืนยันข้อมูลทางภาษี

- คลิกที่ หัวข้อ My Account
- คลิกหัวข้อย่อย Tax Information และให้ทำเครื่องหมายที่วงกลม เลือก No และ กดปุ่ม Continue
- หน้าถัดมา Do you have U.S. Activities related to you participation in AdSense? ให้เลือก No และ กดปุ่ม Continue
- หน้าถัดมา ให้ใส่ชื่อ-นามสกุล เป็นภาษาอังกฤษ ใน Signature of Publisher และถือเป็นลายเซ้นต์ของคุณ จากนั้นก็กดปุ่ม Submit information เพียงเท่านี้ ก็ถือว่าได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับภาษีอย่างถูกต้องเรียบร้อยแล้ววิธีการเลือกรับเงินรายได้...

- คลิกที่ หัวข้อ My Account
- คลิกหัวข้อย่อย Payment History
- คลิกที่ Please select or verify a form of payment
- ให้ทำเครื่องหมาย ที่วงกลม : Check - Standard Delivery และ กดปุ่ม Continue
- ในหน้าถัดมา ให้เลือกสกุลเงินที่ต้องการ ให้เลือก Thai Baht (THB) และ กดปุ่ม Save change
เมื่อ มีรายได้จนยอดถึง $50 ทาง Google จะส่งจดหมายมาทางไปรษณีย์มาตามที่อยู่บ้านเลขที่ เพื่อยืนยันการมีตัวตน ในจดหมายจะมีรหัส Your PIN: เป็นตัวเลขจากนั้นกลับให้ไปที่เว็บไซต์ Google AdSense
- หลังจาก Login เข้าระบบจะเห็นข้อความ
You payments are currently on hold. Action is required to release payment Click here for details ให้คลิกที่ Click here for details
- ที่ Required Action ให้คลิกที่ Please enter your PIN
- ใส่หมายเลข PIN ของคุณ แล้วคลิก Submit PINเว็บไซต์ต้องห้ามสำหรับ Google adsense
ความรุนแรงต่อต้านบุคอื่นกลุ่มหรือองค์กร
Hacking
Spam Keyword
เว็บไซต์การพนัน
โฆษณาทำเพื่อโฆษณาเพียงอย่างเดียว โดยไม่มีเนื้อหาอย่างอื่นเลย
เนื้อหาที่ผิดกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
สิ่งกระตุ้นให้ผู้ใช้ บุคคลที่สามมาแสวงหาผลประโยชน์
อาวุธสงคราม
ขายเครื่องดื่มที่มีแอลกฮอล
บุหรี่
การปลอมแปลงสินค้า
เว็บไซต์ที่โกหกหลอกหลวง
เว็บไซต์เกี่ยวกับลามกอนาจารตัวอย่างเว็บไซต์การทำ Adsense จาก blogger
http://free4com.blogspot.com

หวัง ว่าคงไม่ยากใช่ไหมครับ คงจะสมัครผ่านกันทุกคน ...เมื่อได้บัญชีของ google adsense มาเรียบร้อยแล้วขั้นต่อไปก็จะเป็นเรื่องในส่วนของ เทคนิคการใส่ adsense เข้าไปในเว็บไซต์ ติดตามกันต่อไปคราวหน้า ...โชคดีมีตังค์ครับผม

ที่มา http://www.oknation.net/blog/print.php?id=253386
-----------------------------------------------------------------------------------

สร้างรายได้จาก Google Adsense ด้วยบล็อกของ Exteen.com

1. สมัครบล็อกฟรีของ Exteen.com โดยตั้งชื่อบล็อก (Title) เป็นภาษาอังกฤษ
เปิดเมล์แล้วคลิ๊กลิ้งค์ ที่ทาง Exteen.com ส่งมาให้ เพื่อยืนยันการสมัคร

2. ไปนำข่าวภาษาอังกฤษ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับชื่อบล็อกของเรา มาใส่ไว้ สัก 2 ข่าว
ถ้าเขียนภาษาอังกฤษได้ี ก็เขียนบทความเพิ่มเติมลงไปก็ได้

3. สมัคร Adsense ที่นี่

โดยกรอกข้อมูล เป็นภาษาอังกฤษ ดังนี้

Website URL: [?] ใส่ชื่อเว็บของคุณ ตัวอย่างเช่น abc.exteen.com
Website language: เลือกภาษา ให้คุณเลือกเป็น English ครับ
Account type: [?] เลือกประเภท Individual คือเว็บส่วนตัว
Country or territory: เลือกประเทศ Thailand
Payee name (full name): ใส่ชื่อ นามสกุลจริงของผู้รับเงิน เป็นภาษาอังกฤษตามพาสปอร์ต ถ้าไม่มีก็เขียนแบบทางการที่สุด

** หมายเหตุ คุณไม่สามารถเปลี่ยนชื่อผู้รับเงิน และประเทศได้ ระวัง ให้ดูดี ๆ ว่ากรอกถูกต้องหรือไม่

Address line 1: , Address line 2 (optional): ใส่ที่อยู่
City: แขวง/ตำบล
State, province or region: จังหวัด
Zip or postal code: รหัสไปรณีย์
Phone: เบอร์โทรศัพท์ เบอร์บ้าน พร้อมรหัสประเทศ (ประเทศไทย 66)
02-4594567 ก็ให้กรอกว่า 6624594567 เบอร์มือถือ เช่น 089-5651234 กรอกว่า 66895651234

Fax (optional): เบอร์ Fax
Email preference: ให้ติ๊กเครื่องหมายถูกเพื่อรับข่าวสาร และเทคนิคต่าง ๆ จาก Google
Product(s): [?] ให้ติ๊กเครื่องหมายถูกทั้ง 2 อันเลยครับ
ทั้ง AdSense for Content และ AdSense for Search

Policies ให้ติ๊กเครื่องหมายถูกทั้งหมดเลยครับ อันนี้เป็นข้อตกลงของ Google
เช่น จะไม่คลิกโฆษณาบนเว็บของตัวเอง หรือให้คนอื่นคลิก ,
ไม่โฆษณาในเว็บที่ไม่เหมะสม ลามกอนาจาร เป็นต้น และห้ามละเมิดนะครับ
ถ้าละเมิดอาจโดนแบนได้

Email address: ใส่อีเมล์ของคุณ
Password: ใส่รหัสผ่าน (7 ตัว หรือมากกว่านั้น)
Re-enter password: ใส่ รหัสผ่าน ซ้ำอีกครั้ง

** หมายเหตุ - กรอกข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด

สมัคร Adsense ที่นี่

หลังจากกรอกรายละเอียดต่าง ๆ ครบแล้ว
คลิกที่ Submit Information
หลังจากนั้นให้คุณไปเช็คอีเมล์ที่ได้สมัครไว้ เพื่อยืนยัน
เมื่อยืนยันแล้วให้รอประมาณ 2-3 วัน เพื่อ Google ตรวจสอบข้อมูลของคุณ
และจะส่งอีเมล์มาแจ้งว่าคุณสมัครผ่านหรือไม่่

ที่มา http://adsenseblog.exteen.com/20070503/exteen-adsense
------------------------------------------------------------

ขั้นตอนการสมัคร Google Adsense

ในขณะนี้ Google Adsense ยังไม่รองรับภาษาไทย แต่อีกไม่นานนี้ จะรับเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาที่เป็นภาษาไทยด้วย (ให้ทำเว็บเป็นภาษาอังกฤษ) การสมัครให้คลิกที่ Click Here to Apply แล้วกรอกข้อมูลต่าง ๆ ตามที่ Google กำหนด แล้วรอการตอบรับจาก Google ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน ในการตรวจสอบข้อมูล

คลิ๊กเพื่อสมัครกูเกิลแอดเซนท์ได้เลยครับ

ข้อมูลที่ต้องกรอกในการสมัคร
Website URL: [?] ใส่ชื่อเว็บของคุณ ตัวอย่างเช่น www.bcoms.net
Website language: เลือกภาษา ให้คุณเลือกเป็น English ครับ
Account type: [?] เลือกประเภทของเว็บคุณ ว่าเป็นเว็บส่วนตัว หรือเว็บเกี่ยวกับธุรกิจ
Country or territory: เลือกประเทศ ในที่นี้เลือกประเทศไทยครับ
Payee name (full name): ใส่ชื่อผู้รับเงิน

** หมายเหตุ คุณไม่สามารถเปลี่ยนชื่อผู้รับเงิน และประเทศได้ หลังจากที่คุณสมัคร ให้ดูดี ๆ ว่ากรอกถูกต้องหรือไม่

Address line 1: , Address line 2 (optional): ใส่ที่อยู่
City: แขวง/ตำบล
State, province or region: จังหวัด
Zip or postal code: รหัสไปรณีย์
Phone: เบอร์โทรศัพท์ เช่น 02-2345868 ก็ให้กรอก 6622345868 หรือ 04-0077562 ก็เป็น 6640077562
Fax (optional): เบอร์ Fax
Email preference: ให้ติ๊กเครื่องหมายถูกครับ (อันนี้ Google จะส่งข้อมูลข่าวสาร รวมถึงทิปต่าง ๆ มาให้คุณครับ)
Product(s): [?] ให้ติ๊กเครื่องหมายถูกทั้ง 2 อันเลยครับ ทั้ง AdSense for Content และ AdSense for Search
Policies ให้ ติ๊กเครื่องหมายถูกทั้งหมดเลยครับ อันนี้เป็นข้อตกลงของ Google เช่น จะไม่คลิกโฆษณาบนเว็บของตัวเอง หรือให้คนอื่นคลิก ,ไม่โฆษณาในเว็บที่ไม่เหมะสม ลามกอนาจาร เป็นต้น
Email address: ใส่อีเมล์ของคุณ
Password: ใส่รหัสผ่าน (7 ตัว หรือมากกว่านั้น)
Re-enter password: ใส่ รหัสผ่าน ซ้ำอีกครั้ง

** หมายเหตุ ข้อมูลของคุณต้องกรอกเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด

เมื่อกรอกรายละเอียดต่าง ๆ ครบแล้วให้คลิกที่ Submit Information
หลัง จากนั้นให้คุณไปเช็คอีเมล์ที่ได้สมัครไว้ เพื่อยืนยัน เมื่อยืนยันแล้วให้รอประมาณ 2-3 วัน เพื่อ Google ตรวจสอบข้อมูลของคุณ และจะส่งอีเมล์มาแจ้งว่าคุณสมัครผ่านหรือไม่ ถ้าคุณผ่านการสมัครแล้ว ก็ให้อ่าน วิธีเอา Code ไปติดที่เว็บคุณ ต่อนะครับ

เว็บไซต์ที่ Google ห้ามไม่ให้สมัคร (ถึงสมัครไปก็ไม่ผ่าน)
? ความรุนแรงต่อต้านบุคอื่นกลุ่มหรือองค์กร
? Hacking
? Spam Keyword
? เว็บไซต์การพนัน
? โฆษณาทำเพื่อโฆษณาเพียงอย่างเดียว โดยไม่มีเนื้อหาอย่างอื่นเลย
? เนื้อหาที่ผิดกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
? สิ่งกระตุ้นให้ผู้ใช้ บุคคลที่สามมาแสวงหาผลประโยชน์
? อาวุธสงคราม
? ขายเครื่องดื่มที่มีแอลกฮอล
? บุหรี่
? การปลอมแปลงสินค้า
? เวปที่โกหกหลอกหลวง
? เว็บลามกอนาจาร

ที่มา http://www.naitam.com/naitam-affiliate/view.php?id=2
-----------------------------------------------------------------------------
วิธีลงทะเบียน Google AdSense ทำอย่างไร ?

ข้อมูลที่ต้องกรอกในการสมัคร
Website URL: [?] ใส่ชื่อเว็บของคุณ ตัวอย่างเช่น http://www.bcoms.net
Website language: เลือกภาษา ให้คุณเลือกเป็น English ครับ
Account type: [?] เลือกประเภทของเว็บคุณ ว่าเป็นเว็บส่วนตัว หรือเว็บเกี่ยวกับธุรกิจ
Country or territory: เลือกประเทศ ในที่นี้เลือกประเทศไทยครับ
Payee name (full name): ใส่ชื่อผู้รับเงิน

** หมายเหตุ คุณไม่สามารถเปลี่ยนชื่อผู้รับเงิน และประเทศได้ หลังจากที่คุณสมัคร ให้ดูดี ๆ ว่ากรอกถูกต้องหรือไม่

Address line 1: , Address line 2 (optional): ใส่ที่อยู่
City: แขวง/ตำบล
State, province or region: จังหวัด
Zip or postal code: รหัสไปรณีย์
Phone: เบอร์โทรศัพท์ เช่น 02-2345868 ก็ให้กรอก 6622345868 หรือ 04-0077562 ก็เป็น 6640077562
Fax (optional): เบอร์ Fax
Email preference: ให้ติ๊กเครื่องหมายถูกครับ (อันนี้ Google จะส่งข้อมูลข่าวสาร รวมถึงทิปต่าง ๆ มาให้คุณครับ)
Product(s): [?] ให้ติ๊กเครื่องหมายถูกทั้ง 2 อันเลยครับ ทั้ง AdSense for Content และ AdSense for Search
Policies ให้ติ๊กเครื่องหมายถูกทั้งหมดเลยครับ อันนี้เป็นข้อตกลงของ Google เช่น จะไม่คลิกโฆษณาบนเว็บของตัวเอง หรือให้คนอื่นคลิก ,ไม่โฆษณาในเว็บที่ไม่เหมะสม ลามกอนาจาร เป็นต้น
Email address: ใส่อีเมล์ของคุณ
Password: ใส่รหัสผ่าน (7 ตัว หรือมากกว่านั้น)
Re-enter password: ใส่ รหัสผ่าน ซ้ำอีกครั้ง

** หมายเหตุ ข้อมูลของคุณต้องกรอกเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด

เมื่อกรอกรายละเอียดต่าง ๆ ครบแล้วให้คลิกที่ Submit Information
หลัง จากนั้นให้คุณไปเช็คอีเมล์ที่ได้สมัครไว้ เพื่อยืนยัน เมื่อยืนยันแล้วให้รอประมาณ 2-3 วัน เพื่อ Google ตรวจสอบข้อมูลของคุณ และจะส่งอีเมล์มาแจ้งว่าคุณสมัครผ่านหรือไม่ ถ้าคุณผ่านการสมัครแล้ว ก็ให้อ่าน วิธีเอา Code ไปติดที่เว็บคุณ ต่อนะครับ

เว็บไซต์ที่ Google ห้ามไม่ให้สมัคร (ถึงสมัครไปก็ไม่ผ่าน)
• ความรุนแรงต่อต้านบุคอื่นกลุ่มหรือองค์กร
• Hacking
• Spam Keyword
• เว็บไซต์การพนัน
• โฆษณาทำเพื่อโฆษณาเพียงอย่างเดียว โดยไม่มีเนื้อหาอย่างอื่นเลย
• เนื้อหาที่ผิดกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
• สิ่งกระตุ้นให้ผู้ใช้ บุคคลที่สามมาแสวงหาผลประโยชน์
• อาวุธสงคราม
• ขายเครื่องดื่มที่มีแอลกฮอล
• บุหรี่
• การปลอมแปลงสินค้า
• เวปที่โกหกหลอกหลวง
• เว็บลามกอนาจาร

ที่มา http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=de-doy&month=08-2007&date=12&group=4&gblog=2
-----------------------------------------------------------------------------------------

วิธีลงทะเบียน Google AdSense
วิธีลงทะเบียน Google AdSense
ใน ขณะนี้ Google Adsense ยังไม่รองรับภาษาไทย แต่อีกไม่นานนี้ จะรับเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาที่เป็นภาษาไทยด้วย ในการสมัครถ้าเว็บของคุณเป็นภาษาไทยให้ทำหน้าที่มีเนื้อหาเป็นภาษาอังกฤษ สัก 2-3 หน้า แล้วใช้หน้านั้น ๆ สมัคร โดยคลิกที่ Click Here to Apply แล้วกรอกข้อมูลต่าง ๆ ตามที่ Google กำหนด แล้วรอการตอบรับจาก Google ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน ในการตรวจสอบ


ข้อมูลที่ต้องกรอกในการสมัคร
Website URL: [?] ใส่ชื่อเว็บของคุณ ตัวอย่างเช่น www.h-review.com
Website language: เลือกภาษา ให้คุณเลือกเป็น English ครับ
Account type: [?] เลือกประเภทของเว็บคุณ ว่าเป็นเว็บส่วนตัว หรือเว็บเกี่ยวกับธุรกิจ
Country or territory: เลือกประเทศ ในที่นี้เลือกประเทศไทยครับ
Payee name (full name): ใส่ชื่อผู้รับเงิน
** หมายเหตุ คุณไม่สามารถเปลี่ยนชื่อผู้รับเงิน และประเทศได้ หลังจากที่คุณสมัคร ให้ดูดี ๆ ว่ากรอกถูกต้องหรือไม่
การกรอกข้อมูลส่วนตัว
Address line 1: , Address line 2 (optional): ใส่ที่อยู่
City: แขวง/ตำบล
State, province or region: จังหวัด
Zip or postal code: รหัสไปรณีย์
Phone: เบอร์โทรศัพท์ เช่น 02-9876543 ก็ให้กรอก 6629876543 หรือ 089-2950508 ก็เป็น 66892950508
Fax (optional): เบอร์ Fax ไม่ใส่ก็ได้
Email preference: ให้ติ๊กเครื่องหมายถูกครับ (อันนี้ Google จะส่งข้อมูลข่าวสาร รวมถึงทิปต่าง ๆ มาให้คุณครับ)
Product(s): [?] ให้ติ๊กเครื่องหมายถูกทั้ง 2 อันเลยครับ ทั้ง AdSense for Content และ AdSense for Search
Policies ให้ติ๊กเครื่องหมายถูกทั้งหมดเลยครับ อันนี้เป็นข้อตกลงของ Google เช่น จะไม่คลิกโฆษณาบนเว็บของตัวเอง หรือให้คนอื่นคลิก ,ไม่โฆษณาในเว็บที่ไม่เหมะสม ลามกอนาจาร เป็นต้น
Email address: ใส่อีเมล์ของคุณ ควรจะเป็น Gmail
Password: ใส่รหัสผ่าน (7 ตัว หรือมากกว่านั้น)
Re-enter password: ใส่ รหัสผ่าน ซ้ำอีกครั้ง
** หมายเหตุ ข้อมูลของคุณต้องกรอกเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด
เมื่อ กรอกรายละเอียดต่าง ๆ ครบแล้วให้คลิกที่ Submit Information หลังจากนั้นให้คุณไปเช็คอีเมล์ที่ได้สมัครไว้ เพื่อยืนยัน เมื่อยืนยันแล้วให้รอประมาณ 2-3 วัน เพื่อ Google ตรวจสอบข้อมูลของคุณ และจะส่งอีเมล์มาแจ้งว่าคุณสมัครผ่านหรือไม่ ถ้าคุณผ่านการสมัครแล้ว ก็ให้อ่าน วิธีเอา Code ไปติดที่เว็บคุณ ต่อนะครับ
เว็บไซต์ที่ Google ห้ามไม่ให้สมัคร
เว็บลามกอนาจาร
เวปที่โกหกหลอกหลวง
การปลอมแปลงสินค้า
บุหรี่
ขายเครื่องดื่มที่มีแอลกฮอล
อาวุธสงคราม
สิ่งกระตุ้นให้ผู้ใช้ บุคคลที่สามมาแสวงหาผลประโยชน
เนื้อหาที่ผิดกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
โฆษณาทำเพื่อโฆษณาเพียงอย่างเดียว โดยไม่มีเนื้อหาอย่างอื่นเลย
เว็บไซต์การพนัน
Spam Keyword
Hacking
ความรุนแรงต่อต้านบุคอื่นกลุ่มหรือองค์กร

ข้อมูลเนื้อหาจาก http://adsense.sbcoms.com

ที่มาhttp://weadsense.blogspot.com/2007/03/google-adsense_1613.html
-------------------------------------------------------------

นั้นละครับ หาหลายที่มาให้อ่านกัน จะได้เป็นตัวเปรียบเที่ยบด้วย

เมื่ออ่าน บทความนี้เสร็จ หวังว่า คงเป็นข้อมูลในการตัดสินใจในการสมัครนะครับ

เบอร์โทรศัพท์ ในการสมัคร Adsense

เบอร์โทรศัพท์ ที่ผมใช้สมัครเป็นเบอร์็มือถือ แต่ไม่มั่นใจว่าต้องใช้รหัสประเทศแบบไหน

ผมเลยใช้ google search คำว่า

เบอร์โทรศัพท์ adsense
วิธีสมัคร adsense
วิธีสมัคร เบอร์โทรศัพท์ adsense
เบอร์โทรศัพท์ ใน adsense

จากการหาข้อมุลทำให้มั่นใจว่า ควรจะเป็นอย่างนี้
081 xxx xxxx เบอร์โทรศัพท์ปกติ ของเรา
6681 xxx xxxx เบอร์โทรศัพท์ที่ใช้สมัคร

เปลียน 0 เป็น 66 แทน

แต่ถ้าไม่มั่นใใจ ก็ลองอ่านข้อมูลที่ผมค้นหามาแล้วกันนะครับ

----------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------
Phone: เบอร์โทรศัพท์ เช่น 02-xxxxxxx ควรกรอก 662xxxxxxx หรือ 081-xxxxxxx ก็เป็น 6681xxxxxxx

ที่มา http://www.oknation.net/blog/print.php?id=253386
-----------------------------------------------------------------
Phone: เบอร์โทรศัพท์ เบอร์บ้าน พร้อมรหัสประเทศ (ประเทศไทย 66)
02-4594567 ก็ให้กรอกว่า 6624594567 เบอร์มือถือ เช่น 089-5651234 กรอกว่า 66895651234

ที่มา http://adsenseblog.exteen.com/20070503/exteen-adsense
----------------------------------------------------------------

Phone: เบอร์โทรศัพท์ เช่น 02-2345868 ก็ให้กรอก 6622345868 หรือ 04-0077562 ก็เป็น 6640077562

ที่มา http://tteen.igetweb.com/index.php?mo=3&art=262891
--------------------------------------------------------

Phone: เบอร์โทรศัพท์ เช่น 02-2345868 ก็ให้กรอก 6622345868 หรือ 04-0077562 ก็เป็น 6640077562

ที่มา http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=de-doy&month=08-2007&date=12&group=4&gblog=2
------------------------------------------------------------
Phone: เบอร์โทรศัพท์ เช่น 02-96060xx ก็ให้กรอก 66296060xx หรือ 084-78926xx ก็เป็น 668478926xx

ที่มา http://adsensethailand.exteen.com/20070616/adsense-10
----------------------------------------------------------
Phone: เบอร์โทรศัพท์ เช่น 02-9876543 ก็ให้กรอก 6629876543 หรือ 089-2950508 ก็เป็น 66892950508
ที่มา http://weadsense.blogspot.com/2007/03/google-adsense_1613.html
----------------------------------------------------------------------
---------------------------------------------------------------------

ดูหลังเริ่มซ้ำๆ กันนะครับ

แต่ด้วยข้อมูลประมาณนี้ำก็ทำให้ ผมมั่นใจ ในการกรอก ข้อมูล เบอร์โทรศัพท์ ในการสมัคร Adsense

ถ้ายังไม่มั่นใจ อีก ก็ขอแนะนำให้ท่านผู้อ่าน ใน ใช้ google search คำว่า

เบอร์โทรศัพท์ adsense
วิธีสมัคร adsense
วิธีสมัคร เบอร์โทรศัพท์ adsense
เบอร์โทรศัพท์ ใน adsense

หรือถ้าใครมีข้อมูลที่สดใหม่ กว่านี้ก็แจ้งกันได้นะครับ

ขอบคุณครับ

วันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2552

Choose Ad Channels AdSense : Ad Channels คือ อะไร

ระหว่างทำ Adsense ก็เห็นอยู่คำหนึ่งคือ Choose Ad Channels ถามเพื่อน เพื่อนก็บอกกดข้ามไปเลยก็ได้

เลยทำให้ผมสงสัยเข้าไปใหญ่เลยต้องหา อีกแล้ว

-------------------------------------------------------


ที่มา http://www.thaiadsense.info/article-channels-google-adsense.html

Channels สามารถช่วยทำเงินให้เพื่อนๆ เพิ่มได้อย่างไร? มาเริ่มต้นกันเลย...

What are channels?
คือ ตัวแจ้งให้คุณทราบว่า รายได้ของ Google AdSense ของคุณ มาจากเว็บไซต์ใดบ้าง และ มาจากโฆษณาตัวใดในหน้าเว็บบ้าง

ซึ่งทำให้เพื่อนๆ จะได้รู้ว่า...
- รายได้จากเว็บไซต์ใดบ้างที่ทำเงิน แล้วทำเงินให้ได้เท่าไหร่
- ลักษณะโฆษณาแบบใดที่ทำเงินให้กับเพื่อนๆ มีจำนวนคลิกเยอะ

Channels แบ่งออกได้ 2 อย่าง...

1. URL Channels : ไว้สำหรับเช็ครายได้จากแต่ละเว็บไซต์ ซึ่งสามารถเจาะลึกแบ่งแต่ละหน้าเว็บเพจ ก็ได้ ซึ่งมีประโยชน์ ทำให้เพื่อนทราบว่าเว็บไซต์ใดของเพื่อนๆ ที่ทำเงิน รวมถึงว่าหน้าเว็บเพจใดที่ทำเงินให้กับเพื่อนๆ ได้อีกด้วย

2. Custom Channels : ไว้สำหรับเช็ครายได้จากโฆษณาแต่ละตัว ในหน้าเว็บเพจ ซึ่งทำให้เพื่อนๆ ทราบว่าควรใส่โฆษณาแบบใดดี และวางโฆษณาในตำแหน่งใดดีในหน้าเว็บเพจ

การสร้าง Channels

1. การสร้าง URL Channels

- Log in... https://www.google.com/adsense

- คลิกที่ Channels ในเมนู AdSense Setup

- ใน AdSense for content ให้คลิกที่ลิงค์ URL Channels

- คลิกที่ + Add new URL channels จะพบช่องสำหรับชื่อเว็บไซต์สามารถใส่ได้พร้อมกันหลายเว็บไซต์ โดยบรรทัดละ 1 เว็บไซต์ เช่น..

Enter URLs to track, one per line:
example.com
example2.com
example3.com

- แล้วคลิกที่ปุ่ม Add channels

เพียงเท่านี้ เพื่อนๆ ก็จะรู้ว่ารายได้ของเรามาจากเว็บไซต์ใดบ้าง ก็ต่อเมื่อมีคนคลิกโฆษณา ก็สามารถดูผลรายได้จาก Reports ตามปกติได้เลย


2. การสร้าง Custom Channels

- Log in... https://www.google.com/adsense

- เมนู AdSense Setup สร้างโฆษณาตามปกติจนถึงหัวข้อ Choose Ad Channels ให้คลิกที่ Add new channel

- เมื่อคลิกที่ Add new channel จะมีหน้าต่างขึ้นมาให้ตั้งชื่อ Channels ตามต้องการ เช่น Ad1 เป็นต้น

- ในช่อง Your selected channels ก็จะมีชื่อที่ตั้งสำหรับโฆษณานี้ แล้วก็ทำขั้นตอนตามปกติจนเสร็จ

เพียงเท่านี้ เพื่อนๆ ก็จะรู้ว่ารายได้ของเรามาจากโฆษณาตัวใด และอยู่ในตำแหน่งใดในหน้าเว็บเพจ ก็ต่อเมื่อมีคนคลิกโฆษณา ก็สามารถดูผลรายได้จาก Reports ตามปกติได้เลย

Thanks : Buddy แห่ง ThaiAdSense.info


ที่มา http://www.thaiadsense.info/article-channels-google-adsense.html
--------------------------------------------------------------------------------


เลือก channel
ก่อน เริ่มทำการปรับปรุงหน้าเวบของคุณนะครับ อยากให้เลือกใช้ channels ด้วยครับ เพื่อให้เราสามารถทำการตรวจสอบได้ว่า การที่เราได้ปรับปรุงไปเนี่ยมันมีประสิทธิภาพมากแค่ไหน.แต่ว่า รู้หรือเปล่าว่า URL channels กับ custom channels-- เอ้า...แล้วยังงี้เราต้องเลือกอันไหนเนี่ย? มาดูกันก่อนแล้วกันครับว่าประโยชน์ของแต่ละอันเป็นอย่างไร, แล้วแต่ละแบบ เหมาะกับสถานการณ์แบบไหนครับ

URL Channels
URL Channels เอาไว้เช็คส่วนที่แยกออกจากกัน ของเวบเดียวกัน หรือไม่ก็ คนละโดเมนเนม ไปเลยครับ ถ้าคุณขี้เกียจเปลี่ยน Code AdSense ของคุณ. ใช้ง่ายครับ เช่นถ้าคุณมี Blog เกี่ยวกับ cars และ อีกอันเกี่ยวกับ Boats, คุณก็ทำ URL channel สำหรับแต่ละอันไว้เลย. จากนั้น เมื่อคุณทำการปรับปรุงแล้ว, คุณก็ไปดูผลได้ที่ channel reports ว่าผลการปรับปรุงของคุณเป็นอย่างไร สำหรับแต่ละ Blog (อันนี้คาดว่า น่าจะปรับปรุง สีสันของ Code ครับ แล้วปรับทีเดียวใช้มันสอง Blog ไปเลย

Custom Channels
Custom channels เอาไว้สำหรับหน้าเดียวแต่มีหลาย ad units, โดยคุณต้องสร้าง channels ใหม่ สำหรับ Code แต่ละอันเลยครับ (อันนี้ใครสร้าง ad ไว้แล้วไม่ได้ทำ channels ก็สร้างใหม่ครับ แล้วใส่ channel ด้วยก่อนที่จะ generate code แล้ว copy ไปน่ะครับ) สร้าง ad 1 อัน ก็ใส่ Custom Channels 1 อันเลยนะครับ แล้วก็ใส่ชื่อให้ชัดไปเลยครับ เช่น ‘Left_Ad’ แล้วก็ ‘Right_Ad’ หลังจากสร้าง ad ใหม่แล้ว (พร้อม custom channel) เราก็ copy code ไปแปะลงใน HTML เลยครับ. แล้วก็ไปดู reports แต่ละ ad แบบรายตัวแยกกันได้เลยครับ แล้วก็จะได้รู้กันซะทีว่า Ad อันไหน คนคลิกเยอะกว่า, หรือเมื่อเอาขอบออกไป แล้วมีผลกับรายได้ของคุณหรือไม่.

ถ้า อยากรู้รายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการใช้ channels, มีข้อมูลมากมายเลยครับ ที่นี่ Optimizing with Channels guide การตั้งค่า channel จะช่วยให้คุณเห็นผลของการปรับปรุง AdSense Code ของคุณ ได้ง่ายขึ้นครับ

ที่มาของบทความ http://adsense-rich.blogspot.com/2006/09/adsense-channel.htm

ที่มา http://proof-ebusiness.blogspot.com/2008/07/adsense-channel.html
------------------------------------------------------------------------------------------------
ขั้นตอนต่อไปคือการตั้งชื่อ Channels จะตั้งหรือไม่ก็ได้นะครับ
ถ้าไม่ตั้งก็ Continue ไปได้เลย
แต่ ถ้าจะตั้ง เพื่อเวลาเช็คยอด จะได้รู้ว่า โฆษณาที่โชว์ หรือมีคนคลิก เราได้เอาไปติดไว้ที่เว็บไหน หรือส่วนไหนครับ เช่น ถ้าเราทำเว็บเกี่ยวกับ Car แล้วเราจะตั้งชื่อ ให้โฆษณา code แต่ละตัว เราก็สามารถตั้งชื่อกำกับแต่ละตัวได้ เช่น car1 car2 car3 car4 เป็นต้น
(โฆษณาแบบ Ad unit ติดได้ 3 ต่อ 1 หน้า โฆษณาแบบ Link unit ติดได้ 1 ต่อ 1 หน้าเว็บ)
การ ตั้งชื่อ คลิกที่ Add new channel แล้วตั้งขึ้นมาได้เลย ชื่อนี้จะไม่ปรากฎให้ผู้เยี่ยมชมเว็บเห็นครับ เราจะตั้งแบบไหนก็ได้ ไม่มีผลกับความสวยงามของเว็บ ตั้งได้ตามสะดวกเลย พอตั้งแล้วก็จะมาอยู่ช่อง Your selected channels
แล้วเราก็กด Continue ไปขั้นตอนสุดท้ายได้เลย

ที่มา http://makelovemoney.blogspot.com/2007_08_01_archive.html
----------------------------------------------------------------------

What is the eCPM: eCPMคือ อะไร(รวบรวมมา)

ตอนแรก ทำ AdSense
แล้วไปเห็น สิ่งหนึ่งในตัวรายงาน คือ eCPM
ผมก็สงสัยว่ามันคืออะไร
eCPMคือ
จากนั้นผมก็เริ่มหาคำตอบสักหน่อย จาก google ก็ได้คำตอบมาอย่างนี้ครับ

--------------------------------------------------------------------------
Click-Through-Rate คืออะไร
Click-Through-Rate(CTR) หรือ อัตราการคลิ๊กผ่านมีจุดมุ่งหมายในการวัดประสิทธิภาพของสารที่ส่งออกไป เช่นเดียวกับการวัดประสิทธิภาพของแบบนเนอร์ที่ลงในเราไปลงตามเว็บไซต์ วิธีการคำนวณค่า CTR นั้นทำได้โดย

CTR(อัตราการคลิ๊กผ่าน) = ( จำนวนคลิ๊กที่ผู้อ่านเมลล์คลิ๊กlinkในหน้านั้น ) x 100
จำนวน email ที่เราส่งออกไป


ตัวอย่าง - บริษัท ก. ส่ง email แนะนำสินค้าไปยังสมาชิก mailing list จำนวน 5,000 ฉบับ มีจำนวนสมาชิกที่คลิ๊กไปยังหน้าสินค้า จำนวน 2,575 ฉบับ เพราะฉะนั้น Open Rate ของ email แนะนำสินค้าจะเท่ากับ (2575/5000)x100 = 51.5 % จากตัวอย่างแสดงว่าในจำนวน email ที่ส่งออกไป 100 ฉบับ มีผู้ที่เปิดอ่านและคลิ๊ก link ใน email มีจำนวนเฉลี่ย 51.5 ฉบับนั่น

ที่มา : www.thinkandclick.com
------------------------------------------------------------
CPM (Cost Per Thousand) คืออัตราการแสดง Banner ต่อ 1000 ครั้ง นั้นว่าอาจจะเป็นทางออกที่ดีสำหรับเว็บไทย โดยเรทของ CPM เมืองไทยอยู่ทีประมาณ 150 - 200 บาทต่อ CPM (คือ banner แสดงไป 1000 ครั้งก็จะคิดราคาประมาณ 150-200 บาทโดยจะเป็นการคิดจากอัตราการแสดงของ Banner ) แต่ทีผ่านมาการขายโฆษณาส่วนใหญ่ของเมืองไทยจะเป็นการคิดแบบเหมารวมเป็นราย เดือนมากกว่า ซึ่งเว็บไซต์บางเว็บในเมืองไทยก็ขายโฆษณาเป็น CPM ได้แก่ เว็บในเครือของบริษัท Mweb

www.webmaster.or.th
--------------------------------------------------------------------------------------
โฆษณาแบนเนอร์แบ่งออกเป็น 2 แบบใหญ่ๆ คือ แบบคงที่ (Fixed) หมายความว่าคุณจองพื้นที่ลงโฆษณาบนหน้าเว็บเพจนั้นเลย อัตราค่าโฆษณาจะคิดแบบคงที่ ไม่คำนึงถึงจำนวนผู้เข้าชมเว็บ แต่มีข้อเสียคือ ไม่ว่าคนจะเข้าชมมากหรือน้อย ผู้ลงโฆษณาก็ต้องจ่ายเงินเท่ากัน ซึ่งไม่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน เพราะไม่เป็นธรรมสำหรับผู้ลงโฆษณา และในแง่ของเจ้าของเว็บไซต์แล้ว เว็บเพจนั้นจะจำกัดได้เพียงหนึ่งโฆษณาเท่านั้น

อีกแบบหนึ่งคือ แบบ Rotating หมายถึงการลงโฆษณาแบนเนอร์แบบสุ่มตัวอย่างให้ปรากฏในหน้าเว็บไซต์ต่างๆ หรือหน้าที่กำหนดเฉพาะ ในแต่ละหน้าจะปรากฏโฆษณาแบนเนอร์ที่ไม่ซ้ำกัน จะบ่อยหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับแคมเปญที่ผู้ลงโฆษณาทำไว้ โดยอัตราค่าโฆษณาจะคิดตามจำนวนครั้งที่โฆษณาแบนเนอร์ปรากฏ (หรือที่เรียกกันว่า Impression) ซึ่งเป็นวิธีที่นิยมที่สุดและเป็นมาตรฐานสากลด้วย แบบ Rotating

ผู้ลงโฆษณาจะจ่ายค่าโฆษณาตามความเป็นจริงและในบางไซซ์สามารถระบุกลุ่มเป้าหมาย ตามอายุ อาชีพ เขตที่อยู่ของผู้ชมได้

มี คำถามเกิดขึ้นมาว่า แล้วจะหาโฆษณาที่ไหนมาลงเว็บไซต์ของเรา ผมขอแนะนำ 3 วิธีกว้างๆ นะครับ วิธีแรก คุณวิ่งหาโฆษณาเอง ติดต่อลูกค้าโดยตรง โดยคิดค่าลงโฆษณาเป็นแบบคงที่หรือเป็นแบบ Rotating ก็ได้ ถ้าลงโฆษณาแบบ Rotating ก็จะคิดอัตราค่าโฆษณาเป็นต่อ 1,000 ครั้งที่เห็นโฆษณา หรือ Impression ซึ่งจะกำหนดหน่วยเป็น CPM (Cost-Per-Thousand) หรือราคาต่อการเห็นโฆษณา 1,000 ครั้ง

เช่น กำหนดราคา CPM เท่ากับ 250 บาท คุณตกลงกับลูกค้าว่าแคมเปญนี้จะลงโฆษณาแบนเนอร์ทั้งหมด 100,000 Impressions ภายในหนึ่งเดือน พอถึงสิ้นเดือนคุณก็คิดเงินลูกค้า 25,000 บาท ด้วยวิธีแรกนี้ คุณจะต้องมีทีมลูกค้าสัมพันธ์เป็นของตัวเอง คุณจะต้องมีชุดนำเสนอเว็บไซต์ของคุณด้วย ซึ่งผมคงจะไม่แนะนำวิธีนี้กับเว็บไซต์หน้าใหม่ครับ เพราะค่าใช้จ่ายจะสูงและเหนื่อยมากครับ

วิธีที่สองคือ ติดต่อบริษัทหรือเอเย่นต์รับหาโฆษณาแบนเนอร์มาลงเว็บไซต์คุณ โดยวิธีนี้คุณก็ไม่จำเป็นต้องมีทีมลูกค้าสัมพันธ์ของตัวเอง แต่ต้องมีชุดนำเสนอเว็บไซต์ของคุณ และต้องเสียค่าคอมมิสชั่นให้กับบริษัทที่หาโฆษณาแบนเนอร์ให้ ส่วนการคิดค่าลงโฆษณาก็จะเหมือนกับวิธีแรกคือ แบบคงที่ และแบบ Rotating

วิธี สุดท้าย ซึ่งเป็นที่ฮิตมากสำหรับเว็บไซต์หน้าใหม่ คือการใช้บริการจากเว็บไซต์โฆษณาแบนเนอร์ เช่น www.click2net.com, www.eads.com, www.doubleclick.com เป็นต้น เว็บไซต์บริการเหล่านี้จะหาผู้ลงโฆษณาแทนคุณ โดยเขาจะได้รับผลต่างระหว่างอัตราค่าโฆษณาที่ผู้ลงโฆษณาจ่ายกับอัตราค่า บริการที่จะเสียให้กับเว็บไซต์ที่นำโฆษณาแบนเนอร์นั้นไปลง ขั้นตอนง่ายๆ คือ คุณจะต้องลงทะเบียนเป็นสมาชิกกับเว็บไซต์บริการเหล่านี้ก่อน โดยการระบุชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ชื่อเว็บไซต์ URL หมวดหมู่เว็บไซต์ของคุณ จากนั้นรอการยืนยันการเป็นสมาชิกผ่านจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ที่คุณระบุไว้ พร้อม User Name และ Password โดยเขาจะตรวจสอบว่าเว็บไซต์ของคุณมีจริงมั้ย เนื้อหาดีมั้ย รูปแบบเป็นอย่างไร อะไรเหล่านี้ เป็นต้น

คุณต้อง ตรวจสอบก่อนด้วยครับว่า เว็บไซต์บริการนั้นรับเว็บไซต์ที่เป็นภาษาอื่นๆ ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษด้วยหรือเปล่า จากนั้นคุณก็ไปเว็บไซต์บริการนั้นอีกครั้ง เพื่อรับ Source Code หรือชุดคำสั่ง นำมาลงในเว็บไซต์ของคุณ ตรงตำแหน่งที่คุณจะให้โฆษณาแบนเนอร์ปรากฏ รายได้ที่คุณจะได้รับนั้นขึ้นอยู่กับจำนวนคลิกที่ผู้ชมเว็บไซต์คลิก โดยทั่วไปแล้วจะประมาณ 6-7 เซนต์ หรือประมาณ 2.50 บาทต่อการคลิกโฆษณาแบนเนอร์แต่ละครั้ง คุณสามารถตรวจสอบจำนวนคลิกและรายได้ประจำเดือนได้ตลอดเวลาผ่านเว็บไซต์คุณ จะได้รับเช็คเงินสดทุกสิ้นเดือน คุณอาจจะสงสัยว่าแล้วมันจะคุ้มกับการทำเว็บไซต์มั้ย เรามาลองคำนวณกันง่ายๆ นะครับ

สมมติว่าคุณทำเว็บไซต์ มีคนเข้าชมวันละ 3,000 คน ให้เฉลี่ยคนหนึ่งเข้าเว็บไซต์คุณแล้วไปหน้าเว็บเพจต่างๆ คนละ 5 หน้า จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับเนื้อหาและเทคนิคการจัดทำเว็บไซต์คุณ คุณจะได้ 3,000 คนต่อวัน x 5 หน้า x 30 วัน เท่ากับ 450,000 หน้าต่อเดือน หรือเท่ากับจำนวนครั้งที่โฆษณาแบนเนอร์ของคุณปรากฏ ซึ่งเท่ากับ 450,000 Impression ต่อเดือน และจะเกิดคำถามขึ้นว่าแล้วเจ้าของเว็บไซต์จะได้เงินเท่าไรกันล่ะ ?

ผม จะใช้ค่า CTR (Click Through Rate) มาคำนวณรายได้ ค่า CTR คือ เปอร์เซ็็นต์ที่ผู้ชมคลิกที่โฆษณาแบนเนอร์ เช่น ถ้าโฆษณาแบนเนอร์ของคุณปรากฏ 1,000 ครั้ง และมีผู้ชมคลิกที่โฆษณาแบนเนอร์ของคุณ 150 ครั้ง ค่า CTR จะเท่ากับ 1.5% โดยทั่วไปค่ามาตรฐานของ CTR สำหรับโฆษณาแบนเนอร์จะอยู่ที่ค่าระหว่าง 1.0-4.0% ในกรณีนี้ผมใช้ค่า CTR เท่ากับ 2% แสดงว่าเจ้าเว็บไซต์นี้จะได้รายรับ 2% x 450,000 Impression x 6 เซนต์ เท่ากับ 540 ดอลลาร์ หรือประมาณ 20,000 บาทต่อเดือน ซึ่งก็ไม่น้อยนะครับ แต่การทำให้ได้ 3,000 คนต่อวันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนะครับ

ที่มา : http://thaitelecom.com/pub2004/article.php...rd=&Searchtype=
-------------------------------------------------------------------------------
Page eCPM คือ Effective CPM จ้า ถ้าจะให้พูดภาษาชาวบ้านคือ ตัวเลขรายได้ถ้าเทียบเป็น CPM จ๊ะ

สมมติ ว่าเราแสดงแบนเนอร์ 10,000 ครั้ง ได้ 20 คลิก คิดเป็นเงิน 100 บาท แสดงว่าเราได้เงินประมาณ คลิกละ 5 บาท หรือประมาณ 10 บาท CPM จ๊ะ

การที่ Google ช่วยสรุปค่า eCPM มาให้เราเพราะว่าเราจะได้ดูได้ว่าลงโฆษณากับ Google แล้วคุ้มหรือไม่

ปกติ แล้วค่า eCPM น่าจะอยู่ที่ประมาณ $0.1 - $1 ใครได้มากกว่านั้นถือว่าโชคดี หรือถ้าจะให้เทียบคือประมาณ 4 - 40 บาท ต่อการแสดงแบนเนอร์ 1,000 ครั้ง

http://ptc.icphysics.com/webboard/SFM/index.php?topic=8415.0
-------------------------------------------------------------------------------------
page impression = จำนวนคนเข้ามาดูหน้าเว็บเพจที่ติดโฆษณาของgoogle
CTR = เปอร์เซ็นต์ในการคลิก (จำนวนคลิก*100/จำนวนคนเข้าเว็บเพจ)
eCPM = เงินที่ได้โดยเฉลี่ยต่อผู้เข้ามาชม 1000 คน (earning*1000/page impression)

CTR ---- Click Through Rate คือ วิธีหนึ่งในการประเมิณผลความสำเร็จของการโฆษณาทางอินเตอร์เน็ต ค่า CTR สามารถคำนวณได้จาก นำจำนวนคลิ้กทั้งหมด หารด้วย จำนวนที่โฆษณาถูกแสดง แล้วคุณด้วย 100

eCPM ---- Effective Cost per Mille (Mille เป็นภาษาลาติน แปลว่า จำนวนพัน) ถูกใช้ในการประเมินค่าประสิทธิภาพความสำเร็จของ*การขาย ซึ่ง **การขายในที่นี้มีทั้งหมด 3 ชนิดคือ CPA, CPC และ CPT บางกลุ่มเรียกว่ามูลค่าการขาย ซึ่งเกิดขึ้นจากการนำเสนอ 1000 ครั้ง

ที่มาhttp://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,11787.0.html
-----------------------------------------------------------------------------------
Page CTR

CTR ย่อมาจาก Click-through-rate ซึ่งคิดได้จาก (Click/Page impressions)*100

หรือ ก็คือจำนวนคลิกต่อจำนวนครั้งที่เว็บของคุณแสดง Ads นั้นเอง เช่น มี 5 คนคลิก Ads จาก 100 คนที่เปิดหน้าเวบของคุณก็จะได้ว่า (5/100)*100 = 5% นั้นเอง ค่านี้สามารถจะเป็นได้ตั้งแต่ 0.1% ถึง 30 % แต่ส่วนมากจะอยู่ที่ 1% ถึง 10% ถ้ามากเกิน 20% จะเข้าข่ายน่าสงสัย
ที่มา http://ptc.icphysics.com/webboard/SFM/index.php?topic=8415.0
--------------------------------------------------------------------------------------
ค่า eCPM นั้นสำคัญไฉน

ค่า eCPM = effective Cost per 1,000 impressions ซึ่งไม่ได้มีประโยชน์อะไรมากนักสำหรับ Publisher อย่างเรา ๆที่จะสนใจ แค่เป็นค่าที่ Page impression หารด้วย รายได้ ซึ่งก้จะเป็นราคาของการแสดง โฆษณา ต่อ 1,000 ครั้งครับ เช่น ถ้าคุณมีรายได้ 50 เหรียญ จากการมีผู้เข้าชมเว็บทั้งหมด 4,000 ครั้ง ก็จะคิดเป็น 50 หารด้วย 4.00 (ไม่ใช่ 4000) = 12.5 ครับ
ที่มา http://money-of-trip.blogspot.com/2008/09/ecpm.html
----------------------------------------------------------------

มีหลายท่านในคำอธิบายหลายๆแบบนะครับ

หว้งว่า คงมีประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่สนใจนะครับ