วันพุธที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2552

การทำเงินจริงๆ จาก Adsense

หลังจากได้สัจจธรรมไปก่อนการเขียนบทความสุดท้าย ว่าสุดท้ายถ้าผมเขียน Blog เพื่อเงินแล้วละก็ อาจจะกลายเป็นคนที่เอาแต่นั้งหาแต่คำสำคํญที่ได้เงินสูง และไป Copy Paste ชาวบ้านทความชาวบ้านมาไว้ใน Blog ตัวเอง และทำหน้าที่อัพ link ใน index เว็บต่างๆ ซึ้งนั้นไม่ได้สร้างความสุขในผมเลย (แต่น่าจะสร้างเงินให้ผมมากกว่า) แต่การฝึกภาษาอังกฤษนั้น เป็นสิ่งที่ผมตั้งใจปรารถนามานานแล้ว เพราะทักษะการเขียนของผมนั้น อ่อนมาก แม้จะลองเขียนไปบ้างแล้ว แต่เนื่องจากมันยังไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการ ก็เลยขอพักไว้ก่อน

เมื่อหลังจากผมได้เขียนบทความ "เมื่อบทความและ Blog โดนกำหนดด้วยเงิน" เสร็จผมก็คิดได้ว่า สิ่งที่ผมต้องการจากการเขียนBlog คือ
  1. การได้หาความรู้ให้ตัวเองในเรื่องที่เราอยากรู้
  2. ได้เล่าถึงความรู้ที่เราได้มาเพื่อให้คนอื่นทราบ
แค่ 2 อย่างนี้เท่านั้นที่ผมต้องการ เราเงินมันมาที่หลัง แต่กลายเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกนำหน้าได้ตอนไหนไม่เข้าใจเหมือนกัน ผมจากคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับ GoogleAdsense กลายเป็นผู้ชำนาญไปซะงั้น หนังสือในท้องตลาด ถ้าไม่ดีจริง หรือม มีอะไรแตกต่าง ผมจะไม่เปิดอ่านเลย เพราะพื้นฐานผมแน่นแล้ว

สิ่งที่ผมสรุปได้จริงๆ จากประสบการณ์ผมเองและประสบการณ์ผู้อื่นเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องทำในการทำเงินใน Adsense คือ
  1. ทำเงินจากในนี้มันไม่ง่าย ต้องมีความพยายามสูง ถ้าไม่โกงหรือทำผิดกฏ ที่วางไว้ เคยมีคนบอกว่า ถ้ามันง่ายจริง ปานนี้รวยกันทั้งประเทศแล้ว ผมว่าจริงครับ
  2. การทำ Web หรือ Blog และการสนับสนุนมันด้วยเครื่องมือต่าง ไม่ว่าจะเป้น Google Analytic, Google webmaster tool หรือ พวก Joomla Wordpress Blogsport หรือ CMS ทั้งหลาย เล่นให้เยอะ อ่านให้เยอะ เดี๋ยวก็เก่งเองครับ
  3. ทำ SEO นั้น หลักเกณฑ์ไม่แน่นอน บ้างก็บอกว่า ทำอย่างนี้ถูก แต่บางคนก็บอกไม่ถูก แต่ SEO ก็คือ SEO ไม่มีใครสามารถจับความสามารถของ Google ได้หมดหรอกครับ ขอแค่ให้ลองทำกันดู แต่สิ่งสำคัญของ SEO คือ สามารถเพิ่มจำนวนคนเข้ามาชม Blog ได้ครับ
  4. สิ่งสำคัญคือ บทความ ถ้าดีก็มีคนเข้ามาอ่านเยอะ และถ้าดีกว่านั้นก็คือได้แฟนประจำ Blog นั้นไป
  5. การ Click นั้นต้องโดยคนอ่าน Click ให้ มีบ้างบางที่มีคนเผลอกด โดยไม่รู้ แต่เค้าคนนั้นคงเผลอ ครั้งต่อไปอาจจะลำบาก

ปัญหาจริงๆ บางครั้งผมว่าเกิดจากการมี โฆษณาที่ไม่ต้องกับความต้องการของคนหรือบทความมาปรากฎใน Blog เรา โดยเฉพาะภาษาไทย ผมว่าคงมีส่วนคนมาประกาศโฆษณาน้อยกว่าภาษาอังกฤษอยู่แล้ว รวมทั้งมีคนไม่รู้เรื่อง ebusniess มาเท่าไร จึงจำเป็นต้องใช้เวลาอีกสักพักมั้งครับ ถึงจะได้มีการพัฒนาไปกว่า

แต่นั้นมมันเป็นเรื่องรองของนักเขียน Blog ตอนนี้สิ่งที่ผมควรทำมากกว่าคือ การเขียน Blog ได้ทุกวัน และ เป็นเรื่องที่ต้องการความต้องการของคนอ่านด้วย ถ้าได้ดังนี้เมื่อไร Blog ผมคงมีอะไรน่าสนใจกว่านนี้นะครับ

ส่วน AdSense ความจริงมันไม่ยากอย่างที่เราคิดหรือกลัวกันหรอกครับ ขอให้ลองเริ่มต้น เริ่มลอง สักพัก คุณจะกลายเป็นคนใช้ Adsence เป็น และถ้าคุณคิดจะทำไรแปลกๆใหม่ๆ คุณจะเป็นผู้ชำนาญ และถ้าคุณอ่าน หนังสือ หรือ บทความในอินเตอร์เน็ท คุณจะกลายเป็นเทพได้ทันที

เชื่อผมสิ AdSense หรือ IT ด้านต่างๆ มันมีส่วนนิดเดียวและยากแค่ตอนเริ่ม แต่สิ่งที่คุณจะเขียนนั้นละครับ สำคัญสุดและจะทำให้คุณรู้ว่าสิ่งนี้จะทำให้มันยากตลอดไป

วันพุธที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2552

เมื่อบทความและ Blog โดนกำหนดด้วยเงิน

เริ่มแรกเดิมที ผมตั้งใจว่าจะเขียน Blog ไว้ เพื่อให้เป็นสื่อการสอนเพิ่มเติมให้นักศึกษาที่ได้เรียนกับผมมาอ่าน และหลังจากนั้นผมจะเขียน Blog ต่อไปเพื่อเป็นสุสานความรู้ ช่วงนั้นก็ว่าจะเลิกทำ 3d หรือ อะไรที่ได้พบมาก็เขียนๆ ไปเฉยๆเพื่อวันใดวันหนึ่งจะมีใครหลงเข้ามาอ่าน

ส่วนBlog นี้ก็ว่าจะเป็นแหล่งบันทึกว่าวันนี้หาความรู้ไรใน Google บ้าง เพื่อมานั่งอ่านเล่นๆ

ผมเลยมีความคิดว่า ทำ Adsense เพื่อได้เป็นค่าขนมเล็กน้อย โดยเริ่มจากไม่รู้อะไรเลย โดยให้เพื่อนเป้นคนทำให้ด้วยซ้ำ แต่มันกลายเป็นสิ่งที่พลาดอย่างมหันต์

สักพักผมก็อยากให้คนเริ่มเข้าเยอะๆ เพราะเริ่มแรก เวลาดูจาก Google Analytic แล้ว มัน 0 ตลอดเลย

ก็เริ่มอยากเขียนไร ก็เขียน ศึกษา SEO ตามด้วย เครื่องมือต่างๆ

พอถึงช่วงว่าง ผมดันกลายเป็นนักเขียน Blog ไปตอนไหนไม่รู้ เพราะผมเหมือนเสพติดการเขียน Blog ไปแล้ว

ผมพยายามอยู่ในการบังคับให้เขียนเองอยุ่ เพราะ อย่างน้อย มันได้พัฒนาทักษะความรู้ผมด้วย ทั้งด้านการเขียน และ ความรู้สิ่งทีอยากจะเขียน ไม่ก็อปแปะ หรือ copy paste เพราะผมจะไม่ได้ความรู้เท่าไรนัก พยายามทำเหมือนงานศึกษาส่วนบุคคล ที่อ่านแล้วมาอธิบาย

แต่ในขณะเดียวกัน แรงจูงใจ นอกจาก พัฒนาความรู้แล้วคือ เงินมั้งครับ ซึ่งผมได้น้อยมากเมื่อเทียบกับคนทำคนอื่นๆ ผมได้ 3 $ หลังจากผ่านไป ครึ่งปี นับว่าน้อยมาก

แต่มันก็เป็นแรงบรรดาลใจให้ผมทำอย่างอื่น เช่นการเขียนบทความภาษาอังกฤษ แม้อยากเขียนมานานมากแล้วแต่ผมก็ไม่เขียน ผมยังไม่กล้ามาก แต่หลังๆ มัีนเป็นแรงบรรดาลใจและท้าทาย ผมเลยต้องหัดเขียน ไม่ Copy paste หรือ น้อยที่สุด และ ให้อ้างอิงด้วย

แต่ที่ผม หงุดหงิดตัวเองคือ ผมอยากเขียนเกี่ยวกับ พวกโหรศาสตร์ หลักการทำนายต่างๆ ผมดันไม่อยากเขียน เพราะราคามันไม่ดีเท่าไร ซึ่งตรงข้ามกับ อะไรที่อยากทำอยู่แล้ว และราคาดี ผมจะเขียนทันทีเลย

ซึ่งแรงจูงใจ ความอยาก ทบทวน หาความรู้เพิ่มเติม มีเท่าๆ กัน แต่ดันเจอแรงเงิน มาขัดขวาง ว่าให้ทำที่ อยากและราคาดี ก่อน

แม้ทุกวันนี้ผมได้น้อยมาก แต่ก็ยังทำอยู่่ ซึ่งผมอ่านมาหลายที่แล้ว ก็มีการพูดถึงว่า โดนกำหนดด้วยเงินมากกว่า การอยากเพยแพร่ความรู้ อ่านแล้วสะดุ้งเหมือนกันครับ

อย่างน้อยเราก็ไม่เป็นคนเดียว

วันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2552

เครื่องมือหา keyword ที่น่าสนใจด้วย Adwords ( Keywordtool by Adwords )

จากบทความ หา keywords ราคาสูง ผมได้เสนอแนวทางการหาคำสำคํญที่มีราคา เพื่อให้ทราบเป็นแนวทาง ซึ่งผมได้นำบทความมาเสนอวิธีเล็กน้อย

ในบทความนี้ผมจะเสนอเครื่องมือที่ใช้หา Keywords นั้นครับ

อันนี้เคยบอกกล่าวไว้ใน บทความก่อนหน้า คือ การหาระดับการแข่งขันของผู้โฆษณาใน Google เพื่อให้ทราบว่าคำไหนมีการแข่งขันมากน้อยแค่ไหน ซึ่งแข่งขันมากก็มีโอกาสได้รับค่าโฆษณาสูงเข่นกัน
https://adwords.google.com/select/KeywordToolExternal
อันนี้ว่าประเมินว่าถ้าเราจะโฆษณาต้องมีงบประมาณเท่าไร แต่เราสามารถใช้ดูว่า คำสำคัญนั้น มีค่าใช้จ่ายอยู่ในช่วงราคาเท่าไร แต่ทำให้เราคคาดเดาได้ว่า ราคา แต่ละคลิ้กนั้นประมาณเท่าไร แม้ราคาจะไม่ได้ดังที่เราเห็นก็จริง แต่ก็ทราบได้ว่าราคาพอเป็นแนวทางได้บ้าง
https://adwords.google.com/select/TrafficEstimatorSandbox

การโปรโมทเว็บ ด้วย submit

ข้อมูลสรุปนี้ไม่พร้อมใช้งาน โปรด คลิกที่นี่เพื่อดูโพสต์

websearch แบบ อื่นๆ ของ google

พูดถึง Google คงไม่มีใครในโลกอินเตอร์เน็ตที่ไม่รู้จัก search engine ที่นี้ ซึี่งในปัจจุบันได้กลายเป็นยักษ์
ใหญ่ในวงการ IT ไปแล้ว

แต่นอกจาก ตัว search ปกติแล้ว Google ยังมีตัว search engine แบบอื่นๆ อีก คือ
"Google เจาะลึกการค้นหา" คุณจะสามารถเปรียบเทียบรูปแบบของปริมาณการค้นหาตามภูมิภาค หมวดหมู่ ช่วงเวลา และผลิตภัณฑ์และบริการที่ต้องกา



ซึ่งสามารถดูได้ว่า แทบภูมิภาคในที่มีการค้นหาคำนี้มาก และสามารถเทียบกันได้ด้วย


ซึ่งแบ่ง ออกเป็นด้านข่าว จำนวน ของคำสำคัญที่ใช้ค้นหาและเปรียบเทียบได้
แบบออกเป็นภูมิภาค ว่าประเทศไทยไหนมีการค้นหามาก
ข้อความค้นหายอดนิยม ว่ามีข้อความไหนที่ใกล้เคียงในการค้นหาบ้าง


วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2552

หา keyword ราคาสูง


ทำ blog กับ Adsense มาสักพักได้สักพักละ มีปัญหาอยู่ไม่มากเท่า
  1. ไม่มีคนคลิ้กมากเท่าไร
  2. การคลิ้กได้น้อย
ในข้อ 1 นั้น วิธีแก้คือ หา Traffic ให้เยอะ ๆ แต่ตอนนี้ก็ดีขึ้นกว่าใ
นช่วงทำแรกแล้ว แต่การคลิ๊กนั้นยังน้อยอยู่ ซึ่งเป็นอะไรที่ต้องพยายามต่อไป

ปัญหาข้อต่อมาคือ การทำ Adsense ที่ click ได้น้อย คือการคลิกแล้วเงินที่ได้มันติดดินเหลือการ เพื่อนผมบ้างคนย้ายไปทำ รายอื่น แต่ผมยังอย่างรู้ เลยต้องทำต่อ

การแสดงโฆษณาใน Adsense อาศัยการหาคำสำคัญ (keyword ) มาแสดง แต่ที่เคยเจอมาบ้างครั้งเป็นโฆษณาที่ไม่เกียวข้องก็มี

ดังนั้นการเขียนบทความใดๆ ก็ตาม ควรจะมีเนื้อหาที่ชัดเจน นั้นคือสิ่งสำคัญ เรื่องหนึ่ง ถ้าเรื่องที่เราเขียนมีการแข่งขันกันน้อย โอกาสได้เงินก็น้อยด้วย

แต่ส่วนใหญ่ Google นั้นมีกฎ เช่น ห้ามหา ห้ามคลิกเอง ห้ามอีกเยอะ สิ่งหนึ่งจากกฎทำให้เราทราบว่า Google พยายามทำให้ไเราไม่รู้ว่าโฆษณาตัวไหนมีราคาเท่าไรด้วย ส่วนหนึ่ง

หลักการสร้าง Blogg เืพื่อหารายได้ หรือ เพื่่อเพยแพร่ คำว่า keyword นั้น เป็นสิ่งสำคัญ มันทำให้เว็บเราเจอใน Serach engine ต่างๆ ง่ายขึ้น หลังการนำเข้า เว็บค้นหาต่างๆ จึงมีวิธีที่จะำทำให้ ค้นหาได้ง่าย จึงเป็นศาสตร์ของ SEO นั้นเอง

ซึ่งมีตั้งแต่หาชือของเว็บ Domainname นั้นสำคัญ แต่ คำสำคัญในบทความก็สำคัญเช่นกัน

ซึ่งการกำหนด Keyword ให้กับ web หรือ blog นั้น สำคัญก็ ในตอนแรกผมยังไม่สนใจมากเท่าไร แต่สักพัก เห็นว่าถ้าทำให้เป็นระบบระเบียบจริงๆ จะง่ายกว่ามาก เหมือนอย่าง Blog นี้ มีหลายเรื่องเกินไป ไม่ว่า คอมเสีย SEO Google อาจทำให้สูญเสียความสามารถในการแข่งขันได้

เมื่อเราอยากกำหนดคำสำคัญ Keyword ทำให้เราทราบว่าเราเขียนไรดี ในแต่ละบทความ สิ่งที่เราควรรู้ต่อ
มาเพื่อเป็นแนวทางคือ คำสำคัญนั้น มีความนิยมแค่ไหนใน Adsense

วิธีจะรู้ได้แบบหนึ่ง คือ การใช้ Adword ซึ่งผมไม่เคยสนใจ Adword เลย เพราะเป็นแหล่งทำให้เราเสียเงิน อิอิ

https://adwords.google.com/select/KeywordToolExternal

ตามลิ้งนะครับ เมื่อเข้าไปแล้ว ก็ ป้อน คำที่เราต้องการทราบว่ามีสถานะอย่างไรใน Adsence
ซึ่งช่องที่ผมสนใจข้อมูลมากสุดคือ

การแข่งขันของผู้โฆษณา

คอลัมน์นี้แสดงจำนวนของผู้โฆษณาที่เสนอราคาสำหรับคำหลักแต่ละรายการที่เกี่ยวข้องกับคำหลักทั้งหมดภายใน Google แถบสีเทาเป็นหลักเกณฑ์โดยทั่วไปเพื่อช่วยให้คุณระบุว่าการแข่งขันสำหรับตำแหน่งโฆษณาเป็นอย่างไร สำหรับคำหลักแต่ละคำ

เห็นได้ว่าแม้ไม่ทำให้ทราบว่าราคาเท่าไร แต่อย่างน้อยก็ทราบระดับการแข่งขัน โดนส่วนใหญ่ การที่มีผู้แข่งขนมาก ก็น่าจะมีการให้ราคาสูง ตามการคาดเดานะครับ

ซึ่งในโอกาสต่อไปเพื่อมีเทคนิคหรืออะไรน่าสนใจ จะมาบอกกันใหม่นะครับ

วันอังคารที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2552

เพิ่ม blog, web ใน search engine ต่างๆ

ก่อนหน้าใน blog นี้ ผมเคยเขียนไว้เกี่ยวกับการเพิ่มเว็บให้ Google รู้จัก เพื่อให้google ได้รู้จัก และหาเราเจอ ซึ่งเว็บ google เรียกว่าเป็น web search engine หรือ web search อะไรก็ว่ากันไป สรุปคือ เป็นเครื่องมือค้นหาเว็บเราให้เจอนั้นเอง เพื่อให้ web, blog เราได้อยู่ใน google จึงมีคนทำหลายวิธี ให้ได้อยู่ใน search engine เหล่านี้

แต่ในโลกนี้ยังมี search engine อีกหลายตัวที่มีคนใช้ในอัตราใกล้เคียงกับ Google


เช่น
Yahoo และ Bing

โดยมีสถานที่ให้ลงชื่อเหมือนกันคือ



ส่วนของ Google มีอีกอัน คือ http://blogsearch.google.com/ping?hl=en สำหรับ ค้นหา Blog โดยเฉพาะ

ซึ่งต่อไปเวลาผม สร้าง Blog ใหม่ก็ต้องมีกิจกรรม เพิ่มขึ้นแล้วสิ

วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2552

การนำ Flash flv swf ขึ้นเว็บ blogspot

เมื่อต้องการจะนำเสนอความรู้หลายรูปแบบผ่าน เวบบล็อค แห่งนี้แล้ว

ซึ่งจำเป็นต้องทำสื่อการสอนด้วย Flash เพื่องานต่อการนำเสนอ ในหลายๆ วิชา
แต่บังเอิญ ดันไ่ม่รู้วิธีทำ ตอนแรกก็นั้งหา มันไม่เ็ห็นมีที่ให้นำไฟล์ ขึ้นเลย เลยมาเป็นประเด็นปัญหาให้ต้องหาวิธี

เมื่อรู้ปัญหาว่าคืออะไร เลยต้องทำการหาวิธีแก้ไปปัญหาก่อน
ซึ่งต้องใน Google ในการค้นหา คำสำคํญในการค้นหา เช่น

วิธีเอา flash ขึ้นเวบ blogspot
blogspot เอา flash
Flash on Blogger
Flash on blogspot
เอา flash ขึ้นเวบ
วิธีเอา flash ขึ้นเวบ
เป็นต้น




ความจริงก่อนหน้า เจอเวบภาษาไทย แต่ดันปิดไปก่อนแล้วหาอีกที่ก็ไม่เจอละ
ได้เวปบอกวิธีน่าสนใจมา
http://bloggertricks.com/2007/12/embed-flashflvswf-files-in-blogger.html
กับ
http://www.naamoon.com/2007/10/flash-on-blogspot.html อันนี้ภาษาไทยด้วย
แต่ต้องลองประยุกต์ดูด้วย แต่ อันภาษาไทย จะใช้ได้ผล

ขั้นตอนวิธี
ก่อนอื่น ให้หาเวปสมัครเพื่อฝาก ไฟล์ .flv, .swf

1.
วิธีที่ 1.1 ใช้ผลิตภัณฑ์ของ Google
โดยเข้าไปที่ บัญชีของฉัน (My Account)


เลือก Sites
(โดยส่วนใหญ่ เมื่อก่อนจะให้ใช้ page แต่ตอนนี้ทาง Google ไม่เปิดให้บริการแก่รายใหม่)
แล้วทำการสมัครเปิดเวบใหม่







เมื่อเข้ามาแล้ว ให้ทำการสมัคร (โดยปกติถ้ามีบัญชี Googel อยู่แล้วจะสมัครเรียบร้อย)
จากนั้นให้ทำการ สร้างเว็บไซด์ใหม่ตามรูป






เมื่อกดสร้างแล้ว ให้เราทำการใส่ข้อมูลดังนี้
**** ชื่อsite
คำอธิบาย
เลือกระดับการเพยแพร่ข้อมูล
-ทั่วไป
- เฉพาะกลุ่ม
เลือกรูปแบบเว็บ
**** code เพื่อยืนยันว่า เราสิ่งมีชีวิต
สุดท้ายคือการกด Create site



















สิ่งที่ได้มาคือ เว็บไซต์เพื่อฝากไฟล์
โดยกด ที่ Browse แล้วเลือกไฟล์ที่เราตกการจะนำฝากไว้ทีเว็บไซต์















เมื่อทำการฝากแล้วจะมีรายชื่อไฟล์ขึ้น








เมื่อเรากดที่ชื่อไฟล์แล้ว
จะไปสู่ URL ที่ทำการรับไว้ โดยให้เราทำการ บันทึก URL เพื่อนำไปใช้ต่อไป


















วิธี่ที่1.2
หาเวปฝาก ไฟล์ ที่อื่นๆ เช่นhttp://megaswf.com/


ขั้นที่2.
นำ url ที่ได้รับ ไปใส่ใน code
สรุปการใช้code เป็นดังนี้ครับ


<embed type="application/x-shockwave-flash" src="URL ที่เราฝากไว้" pluginspage=" http://www.macromedia.com/go/getflashplayer" width="ความกว้างของไฟล์" height="ความสูงของไฟล์"></embed>

Codeที่ผมใช้เป็นอย่างนี้นะครับ


<embed type="application/x-shockwave-flash" src="http://3881216012857882222-a-1802744773732722657-s-sites.googlegroups.com/site/gkeng3d/Home/shapline.swf?attredirects=0&auth=ANoY7cry6LTqsaR5nXOO4j90jrrLc0fv8br9YWPARcNhMDsURI9bPM-7vAGh4unYzB4jB4fP0hL8EIfWO7BGqGf6Moh6zUs3Loakoz2mjuKeSoljEpi6wGze4SGzlRp8CdHCtV5Uc1FDJY7yVqpfjOiHVL_bDNHUCfmRkOmvT43_Ga7pf0X0apucbu5-rZP-uZHvsyM7-Vh0" pluginspage=" http://www.macromedia.com/go/getflashplayer" width="440" height="550"></embed>




จะได้เมื่อใส่ url กับ ขนาดแล้ว ก้ เท่าถือเป็นอันเสร็จสิ้น

HTML Links: ทำลิ้งใน Bloger

โดยปกติแล้ว การทำหรือเขียนเว็บ blogspot ที่เราต้องการบอกถึงสถานที่เว็บไซต์อื่นๆ แล้วต้องการให้คนเข้าชมนั้นลิ่งไปได้ก็ ใช้วิธีดังนี้ครับ

วาง HTML code ใน ส่วนของ "แก้ไขHTML" โดยเขียนว่า

<a href="ชื่อ url หรือเว็บที่ต้องการลิ้ง">คำพูด หรือ รูปภาพที่เป็น url </a>



ตามตัวอย่าง


<a href="http://gkeng3d.blogspot.com/2009/03/html-links.html/">กดตรงนี้</a>



ได้ผลอย่างนี้ กดตรงนี้

แต่ถ้าต้องการให้เว็บไซต์ที่เราต้องการนั้น เป็นหน้าเว็บ ให้เติม Code HTML คือ target="_blank" ไว้ข้างหลังต่อจาก ชื่อ URL

ตัวอย่าง


<a href="http://gkeng3d.blogspot.com/" target="_blank">กดตรงนี้</a>



กดตรงนี้

ที่ติด Adsence ดีที่สุด

http://www.digitalmoneylife.com/google-adsense/ติด-adsense-ใน-blogger.html ได้มาจาก link นี้นะครับ ได้พูดถึงการติด ที่ผมหามานาน

ติด AdSense ให้คลิกง่ายใน Blogger หลังไทเทิ้ล

โดยทำตามข้อตอนคร่าวๆ ดังนี้

1. ล็อกอินเข้า Blogger ของคุณ

2. ไปที่หน้า Template Edit

3. คลิกที่ช่อง Expand Widgets

4. มองหาโค้ด แล้วใส่โค้ดด้านล่างก่อนมัน ( )

5. มองหาโค้ดต่อไปนี้ เพื่อใส่วางโค้ด AdSense ไว้ตรงกลางระหว่าง:

adsence


คร่าวๆ นะครับ
รายละเอียดไปอ่านเองที่ http://www.digitalmoneylife.com/google-adsense/ติด-adsense-ใน-blogger.html

วันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2552

adsense ติดได้จำนวนสูงสุดเท่าไร ใน 1 หน้า

ผมเคยสงสัยมานานแล้ว ว่าใครมาฝังหัวผมว่า adsense ติดได้แค่ 3 จุดใน 1 webpage พอหลังๆ ผมเริ่มค้นหามากๆ ขึ้น ก็เริ่มเข้าใจขึ้นมาอีกนิด ว่า

- วางโฆษณาแบบโฆษณาเกี่ยวข้องเนื้อหาของเว็บไซต์ ได้สูงสุด 3 อัน (Content ads). . .
- วางโฆษณาแบบโฆษณาเกี่ยวข้องเนื้อหาของเว็บไซต์ แบบลิงค์ ได้สูงสุด 3 อัน (Link unit). . .
- วางโฆษณาจากการค้นหาเว็บไซต์ ได้สูงสุด 2 อัน (Search). . .
- วางโฆษณาจากการแนะนำบริการ ได้อย่างละ 1 อัน (Referral)
ข้อมูลจาก Thaiseo

อ่านส่วนนี้เสร็จแล้ว ผมจึงคิดได้ว่า งั้นทำ แบบ 3+3+2+1 ก็ได้ 9 อันละ แต่เหมือนมีใครบอกไว้ว่า ได้สูงสุดแค่ 3 อัน ทำให้ผมต้องอ่านรายละเอียดต่อไป ก็ลองหาๆ ก็เจอจนได้

"ก็ตามนั้นครับ คือ Ads ติดได้เท่าไหร่ก็ได้ แต่ Google จะปรากฏโฆษณา แค่ 3 อัน ส่วนที่เหลือจะเป็น หน้าเปล่าๆ ครับ"
ข้อมูลจาก emukidz ใน Thaiseo

ก็เลยเข้าใจละ เลยต้องมาบันทึกไว้ให้จำ และเพื่อเพื่อนคนอื่นๆสงสัยเหมือนผม ได้แวะอ่านได้

สรุปติดเท่าไรก็ได้ครับ แต่โชว์แค่ 3 อัน

------------------------------------------
อ้างอิง
http://www.thaiseoboard.com/index.php?topic=32554.0 อันนี้มีเรื่องห้ามขั้นพื้นฐาน
http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,46357.0.html กระท้ที่คลายข้อสงสัย

MSN 1 mail 2 เครื่อง

ผมมีปัญหาการใช้การใช้ MSN โดยปกติบ้านมีคอมสองเครื่อง ใช้พร้อมๆกัน แล้วแรกต้องสลับกัน ออน MSN แต่ตอนลง msn ใหม่ เครื่องสามารถใช้ MSN พร้อมกันได้ที่ละสองเครื่องใน 1 เมล์

แล้วอยู่ๆ ก็เกิดไม่สามารถ ออน MSN 2 เครื่องพร้อมกันได้

ทำไงให้ออน MSN ได้สองเครื่องโดยไม่หลุดได้อีกครั้ง เมล์เดียวกันแต่ออนไลน์ได้จากคอมสองเครื่องเลยไม่ต้องออกสลับไปมา ทั้งที่เมื่อก่อนตอนแรก ออน2 เครื่องพร้อมกันได้ เลยต้องหาดูว่า ทำไงเพื่อให้ออน msn 2 เครื่อง

เลยเริ่มหาจาก Google อีกครั้งแต่งวดนี้หาไม่เจอ ได้อย่างที่ต้องการ ให้ใช้ เมลล์เดิมแล้วออนได้สองเครื่อง หนึ่งเมล์ออน msn ได้ 2 เครื่อง เลยลองหาวิธีดูจาก แทบ Toolbar การออน msn 2 เครื่องพร้อมกัน โดยใช้เมล์เดียวกัน


ปฎิบัติการณ์ หาวิธีออน MSN 1 เมล์ 2 เครื่อง จึงเริ่มขึ้น

วิธีออน msn 2 เครื่อง พร้อมกัน

1.ไปที่ "เครื่องมือ"
2.เลือก "ตัวเลือก..."


เลือกที่"ลงชื่อเข้าใช้"
แล้วปลดเครื่องหมายถูก ส่วนที่ เขียนไว้ว่า "ลงชื่ออกจากเครื่องอื่นทั้งหมด......"

สิ่งที่ต้องทำต่อไป คือ ทำตอนขั้นตอนดังกล่าว ปลดเครื่องหมายออกทุกเครื่อง msn ที่เราต้องการใช้ หลายเครือ่ง นะครับ

วันเสาร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2552

เริ่มหาวิธีทำให้คนเข้าเว็บ

ที่มาในตอนนี้ คือ blog ผม มีคนเข้าเฉลี่ย ประมาณ 30 ตน ต่อวัน ซึ่งผมก็พอใจกับอัตราส่วนนี้ แต่ ตอนนี้ผมมี 6 blog เฉลี่ย 30 คนต่อวันมันน้อยเกินไป

หนำซ้ำไอ้ที่มีคนเข้าเยอะๆ นั้น คือ http://gkeng3d.blogspot.com/ ซึ่งมีคนเข้าไป เฉลี่ยประมาณ 25 คน ต่อวัน ที่เหลือ อีก 5 blog คือ ไม่เกิน 5 วันต่อวัน

โดยเว็บ gkeng3d นี้ก็ถือว่า ลอยตัวไป แต่อีก 5 blog ที่เหลือละ จำทำอย่างไรดี

ใน Google Analytic นั้นแยกจำพวกคนเข้าเว็บ ไว้ 3 ประเภท

1.เข้าโดยตรง
2.ผ่าน search engine
3.ผ่าน เว็บอ้างอิง

เข้าโดยตรงคือ การพิมพ์ URL แล้วเข้าเลย พวกนี้ น่าจะเป็นผม คนเดียวที่เข้าด้วยวิธีนี้ และหลังก็หวังว่าให้เป็นอย่างนั้น เพราะต้องการตรวจสอบแยกว่า ผม เข้า Blog กี่ครั้ง โดย ณ วันนี้ยัง ประมาณสัก 5 %

อีกวิธี คือ search engine คือการทำ SEO ให้กับ Blog ผม ซึ่งส่วนใหญ่เริ่มเก็บความรู้ไว้ระดับหนึ่ง โดยเฉพาะเว็บนี้ สิ่งที่ต้องทำ คือ ศึกษาเรื่อง SEO ให้มากขึ้น และ ทำการปฎิบัติกับเว็บ เรามากขึ้น เพิ่มเนื้อหาด้วย

สุดท้ายคือ ผ่านเว็บอ้างอิง ตอนแรกอ่านมากี่เล่ม กี่ตำรา กี่เว็บ วิธีนี้ก็ ได้จะดูดีสุด แต่ผมไม่ลองทำ เพราะคิดว่าไม่น่า work จนไปลองดู ก็ปรากฎว่า มันได้ผลจริงๆ แต่ต้องหาเว็บที่เฉพาะทางหน่อย

นั้นละครับ คือ กลยุทธ์ ที่เราจะลองทำการทดสอบดูต่อไป ตอนนี้อยากให้เว็บ blog เพิ่มยอดคนชมขึ้น ก็ต้องเริมทำตามที่วางแผนไว้ดูนะครับ

ผลเป็นอย่างไรเดียวจะมาเล่าให้ฟังในวันหลัง


ผมเลยต้องกลับมาดูคำว่า SEO

วันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2552

การเรียนยุคกำลังภายในกับยุคInternet

ปัจจุบันคอมพิวเตอร์และโลกอินเตอร์เน็ทเกือบเป็นของสามัญประจำบ้านไปแล้ว เพื่อนของผม 2 คน ยัายไปหอที่ใกล้ที่ทำงานและใกล้โรงเรียน แล้วบอกว่าหอใหม่มันไม่มีอินเตอร์ทั้งคู่ ซึ่งผมก็ถามเลยว่า หอใหม่อยู่ส่วนไหนของประเทศ รวมถึงปฎิกิริยาของเพื่อนผมก็บอกว่า "แล้วกูจะอยู่อย่างไร" blogเพื่อนผมทำขนมปัง

ซึ่งอาจเป็นเรื่องลำบากของคนใช้ชีวิตในโลกอินเตอร์เน็ท ซึ่งก็ลำบากมาก เพราะปัจจุบัน การคุยกันผ่านโทรศัพท์ยังน้อยลงมาก เพราะคุยกันใน msn ใช้โทรศัพท์เมื่อกำลังออก หรือ ถึงแล้วตามหาเพื่อน

มาถึงเรื่องการเรียนรู้ในปัจจุบันโลกอินเตอร์เน็ทกับคอมพิวเตอร์เรียนได้ว่าเป็นสื่อการเรียนหรือสื่อการสอนแบบใหม่ ที่ยิ่งกว่าห้องสมุดใหญ่ๆ ที่ไหนในโลกก็ตาม แม้ในบางครั้งผมว่าการเรียนแบบเก่าในห้องเรียนหรือการเรียนแบบสองทาง โดยการมีอาจารย์สอนให้แนะนำกันตัวๆ ย่อมดีกว่าเพราะเรามีโอกาสได้ถาม ได้ทำ ให้
อาจารย์ดู แต่สื่อการเรียนแบบนี้ ก็ให้ความรู้ได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งมากเหมือนกัน

แต่สำหรับพวกที่เข้าห้องเรียนแล้วไปนั้งเล่น หรือนั้งตัวแข็งไม่สนใจอาจารย์ สั่งให้ทำไรก็สักแต่ว่าทำๆ ไปให้มันผ่าน ให้ไม่โดนด่าเป็นพอ ผมว่ามาเรียนแบบทางเดียวก็ดีเหมือนกัน

ซึ่งเปรียบเทียบกับหนังจีนกำลังภายใน การเรียนแบบมีอาจารย์ ก็เหมือนเราเข้าสำนักแล้วมีอาจารย์ฝึกให้อย่างดีถ่ายทอดวิชาให้เต็มที เหมือนเรื่องมัีงกรหยกภาคแรก จอมยุทธ์ยิงอินทรีที่ อังชิกงสอนฝ่ามือ 18 มังกรให้ก๋วยเจ๋ง ถึงก๋วยเจ๋งจะไม่ฉลาดเพียงใด แต่ด้วยความเอาใจใส่ของอังชิกงและความตั้งใจกับความเพรียของก๋วยเจ๋ง ก็ทำให้สำเร็จได้

ส่วนอีกแบบคือพวกไม่มีอาจารย์ให้ทำตาม เหมือนโหลดวีดีโอใน Youtube มาดู แล้วทำตาม อันนี้ เหมือนกับเรื่องเดชคัมภีร์เทวดา ที่เหล้งฮู้ชงให้ไปฝึกวิชาบนเขาแล้วเจอถ้ำที่สลักกระบวนท่าของ 5 สำนัก รวมทั้งวิธีแก้กระบวนท่าเหล่านั้นด้วย เพียงจำภาพได้ทั้งหมด ก็สามารถทราบถึงวิธีทำลายกระบวนท่าทั้งหมด ถ้าคุณดูวิดีโอแล้วจำได้ก็สามารถทำได้

อีกพวก คืออ่านหนังสือ โหลดหนังสือมาอ่าน เหมือนในกระบี่่อิงฟ้าดาบฆ่ามังกร ที่เตียบ่กี้ตกเขาแล้วไปเจอคัมภีร์เก้าสุริยะ ในตัวลิง แล้วอ่านนำมาฝึกตามก็สำเร็จวิชาได้

แม้ดูจะง่ายดายจากฝึกวิชาของพระเอก 3 เรื่อง แต่ความเป็นจริงบัดนี้ โลกเราสามารถเลือกฝึกวิชาแบบไหนก็ได้ เพราะ คอมพิวเตอร์กับอินเตอร์เน็ทนั้น ได้มีคัมภีร์สารพัดแบบไว้มากเหลือเกิน คุณอยากเป็น นักดนตรี โปรแกรมเมอร์ ศิลปิน ฯลฯ ก็แทบจะมีทุกอย่างไว้ในเราไปศึกษาอยู่แล้ว โดยเฉพาะแบบ เตียบ่อกี้ กับ เหล้งฮู้ชง ดังเช่น แฟนเก่าผม เธอเรียนทำขนมเค้กผ่านพันทิพย์แล้วตอนหลังก็สามารถทำเป็นอาชีพเสริมได้อีกด้วย แม้ระหว่างนั้นการฝึกของเธอจะทำให้เธอเสียน้ำตาบ้าง ทำผมแทบประสาทบ้างก็ตาม แต่ผมก็สนับสนุนให้เธอทำๆๆๆๆ และทำ ได้เก่งๆ (คิดว่าเธอต้องมีคุณสมบัติของก๋วยเจ๋งด้วยแต่ไม่มีอาจารย์เป็นตัวตน) อันนี้เป็นตัวอย่าง


แต่สิ่งที่ยากมากขึ้นคือ อังชิกง ที่อาจจะหายากขึ้น หรือ ความเพรียแบบก๋วยเจ๋ง ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างศิษย์กับอาจารย์อาจจะหายากขึ้น เพราะถ้าเรามั่วแต่อยู่ในโลกอินเตอร์เน็ท ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลต่อบุคคลจะลดลงไปเรื่อยๆ ความสัมพันธ์ที่ดีต้องใช้เวลานะครับ การจะหาอาจารย์ดีๆ ในปัจจุบันก็เหมือนยากขึ้นด้วย ถ้าใครได้อาจารย์ที่มีหัวใจของผู้ให้ความรู้เต็มที่ ก็ขอให้ปฎิบัติกับท่านดีๆ เคารพนับถือให้เกรียติท่าด้วยนะครับ

แต่สุดท้าย ผมนึกถึงเรื่องหนังเรื่อง The Matrix วิธีการเรียนแบบเอาปลักเสียบหัวแล้ว load ข้อมูลแล้วมีความรู้เลย

ถึงยุคนั้นเมื่อไร อาจาย์พวกเรา ก็คงเป็นGoogle Youtube คอมพิวเตอร์ อย่างสมบูรณ์แบบนั้นละครับ

วันอังคารที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

สิ่งที่ทำเมื่อ ขึ้น blog ใหม่

เผลอแปปเดียว ตอนนี้มี Blog เป็นของตัวเอง 5 blog แล้ว

มีเรื่อง 3d บันทึกการเรียน ลงทุน บริหารเทคโนโลยี และ อื่นๆ โดยแนวโน้มอนาคตน่าจะมีเพิ่มอีก

โดยตอนนี้สิ่งที่เราทำ Blog จากไม่รู้เรื่องอะไรเลย จนรู้เรื่องขึ้นมานิดหน่อย ซึ่งรูปแบบเวลาทำ blog ใหม่ ก็จะซ้ำกัน

โดยเริ่มจาก

1 เปิด Blog
- คิดชื่อ blog
- เลือก ธีมให้เหมาะ

2.Google Analytic เืพื่อทราบจำนวนคนเข้าชมและทราบว่ามาจากที่ไหนบ้าง
- วาง code ของ Google Analytic
- เข้าไปนำ Code ไปวางในแม่แบบ ในระหว่าง

 
/body


- รอจนเป็น เครื่องหมายถูก ก็ใช่งานได้แล้ว รอสักวันหนึ่ง ถึงจะอัพเดทข้อมูล

3.Google webmaster tool จัดการโครงสร้างเว็บ และดูคำค้นยอดนิยมของเว็บเรา
- add site และ เข้าไป Verily
- วาง code ของ Google webmaster tool
- อัพ sitemap ของ blog

4.เพิ่มชื่อ URL ลง google เพื่อให้ google ทราบ

5. นำ AdSense มาวาง

6. เพิ่มเติมบทความไปเรื่อยๆ

เป็น 5 ขั้นตอน ในการเปิด blog ในครั้งแรก และที่สำคัญสุด คือ ขั้นตอนที่ 6 นันละครับ ต้องทำให้บ่อยที่สุด

วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

แก้ปัญหา meta tag ของ google webmaster tools เซฟต้นแบบ blogger ไม่ได้

google webmaster tools เป็นเครื่องมือช่วยจัดการเว็บไซต์ได้ดีมาก อย่างน้อยผมก็ใช้เพื่อดูว่า มีใคร sreach หรือค้นหาผมด้วย Keyword หรือ คำสำคัญใดบ้างกับเว็บผม

ซึ่งปกติ ต้องทำการ ยืนยันตัวตน (Verifying) ก่อน google webmaster tools จึงจะทำงาน โดยเว็บอื่นผมได้ทำการ Verification ด้วย Meta tag ไปหมดแล้ว เหลือเว็บ อีกเว็บ ซึ่งลืมได้ไงก็ไม่ทราบ



ผมจะทำการ เริ่มขั้นตอนยืนยัน



เว็บก่อนผม ไม่มีปัญหาอย่างนี้ อาจเกิดอะไรขึ้นกับการอัพเดทหรือไม่ อันนี้ก็ไม่แน่ใจ

แต่งวดนี้มีปัญหา โดยปกติเราสามารถนำ Meta tag ไปใส่ ในระหว่าง ได้ทันทีแต่คราวนี้มันกลับมีปัญหาคือ


ทำให้ผมต้องไปหาคำตอบจาก google อีกแล้ว งวดนี้ใช้ค้นหาว่า



"meta tag blogger webmaster tools"



เจอภาษาอังกฤษ แต่ยังไม่ค่อยวิธีแก้ปัญหา ส่วนภาษาไทยก็มีแต่วิธีการทำ ซึ่งทำได้โดยปกติ มีผมผิดปกติอยู่คนเดียว

http://www.thaiadsense.info/article-How-to-add-Google-Sitemap-Blogger.htm

http://itoeblog.blogspot.com/2009/05/sitemap-blogger.html

จนผมต้องเพิ่มคำหาอีกคำเป็น
"meta tag blogger webmaster tools PROBLEM"

คราวนี้เจอทันที.

http://www.google.com/support/forum/p/blogger/thread?tid=239461d51bc82c07&hl=en

http://blogging.nitecruzr.net/2006/03/asking-for-help.html อันนี้แจ้งปัญหากระจ่าง



สรุปที่ผมดูจากmeta tag ของ Google webmaster tools ที่ให้ยืนยันในเว็บนั้น ตกการปิด Tag ไป ทำให้ไม่สามารถ save ต้นแบบได้
แบบที่ก็อปมาจาก Google webmaster tools
เมื่อทำเสร็จแล้วก็ทำการsave ต้นแบบ คราวนี้ไม่มีปัญหา

แล้วกลับไปกด ยืนยัน ผลก็ได้ดังรูป


สำเร็จ

วันพุธที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

Cybercrime มิจฉาชีพ เบอร์โทร00001 ข้อความเสียงจากธนาคารและบัตรเครดิตที่ไม่มี

เช้าวันนี้ 16/07/52 เวลาในโทรศัพท์ 8.45 น. ผมได้รับข้อความเสียงจากธนาคารแห่งหนึ่ง แจ้งว่าผมใช้เงินในบัตรเครดิตไปจำนวนเงิน 3000กว่า บาท

กด1 เพื่อฟังซ้ำ
กด 9 เพื่อติดต่อพนักงาน

ผมก็กด 9 ติดต่อเข้าไปคุยกับพนักงาน แต่บรรยากาศเสียงก็แปลกๆ เหมือน มั่วๆ ไงไม่รู้

จากนั้นพนักงานคนนั้น ก็ เริ่มขอข้อมูล ขอชื่อ นามสกุล ผมก็ให้ไป แล้วเธอ ก็ขอ วันเกิดผม

ผมก็เริ่มสงสัย ว่า ทำไมมันต้องขอวันเกิดด้วยวะ เลขบัญชีห่า เหี้ยไร กูก็ไม่มีในธนาคารนี้ มันขอไปมันจะรู้ไหมเนี่ยว่า บัตรเครดิตใคร แม่งโจรปล่าว เพิ่งได้ดูรายการทีวีไปไม่กี่วันเอง ผมเลยตัดสินใจวางหูไป

จากนั้นมาดู เบอร์โทรศัพท์ที่โทรเข้ามา เป็นเบอร์ 00001 เห็นแล้ว ก็ ไม่น่าเชื่อถืออย่างแรง ผมเลยจัดการโทรไปที่ี่ BUG 1113 ทันที เพื่อขอให้โอนสายไป Call center ธนาคารดังกล่าว

เมื่อผมโอนสายแล้ว ผม ติดต่อกับ พนักงาน ฝั่งบัตรเครดิต แล้วเล่าเหตุการณ์ให้เธอฟัง

พนักงานคนนั้นจึงแจ้งว่า ทางธนาคารไม่มีบริการส่งข้อความเสียงอย่างนี้ ที่พวกหลอกเอาข้อมูล

นั้นละ

ผมก็ พลาดท่า ให้ ชื่อ นามสกุลมันไป เลยมานั้งคิดว่า ชื่อ นามสกุล + เบอร์โทรศัพท์ เนี่ย มันใช้ทำไรได้บ้าง

และก็เหมือนเดิม ผม ก็ต้องหาอะไรใน google เพื่ิอเป็นข้อมูลเหมือนเดิม

ส่วนใหญ่ โดนหลอกเอาเงิน กับ หมายเลขบัตรประชาชน

อันนี้เป็นที่ผมไปฟ้องไว้ในเว็บอื่นๆ อย่างไร http://dek-d.com/board/view.php?id=1389111

สุดท้ายเพื่อนได้รับทราบที่่จากที่ผมเขียนไว้ ก็ ขอให้ระวังด้วด้วยนะครับ

virtual machine เล่นเกมใช้การ์ดจอไม่ได้

อันนี้ก็เป้นเรื่องบ่นๆ กับ virtual machine ที่ผมใช้แล้วมีปัญหา คือ มันไม่สามารถหา การ์ดจอ ได้ ตามรูปด้านซ้ายเป็น การ์ดจอจาก คอมพิวเตอร์หลัก ด้านขวาเป้น การ์ดจอจากvirtual machine
ตอนแรกเราก็ไปโม้เพื่อนบอก จะลงเกมใน virtual machine เพื่อไม่ให้เกมมันดึงประสิทธิภาพเครื่อง แต่สรุป virtual machine มันไม่ได้จำลองการ์ดจอมาให้ งั้นก็ ไว้ทำโปรแกรม Database และเล่นหุ้นไปก่อนแล้วกัน

วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2552

เมื่อเข้าใกล้เลข 3 กับการเริ่มเรียนที่จริงจัง

สมัยก่อนตอนเด็ก ผมเป็นเด็กที่ไม่ค่อยสนใจเรียนเท่าไร แต่ยังดีที่ไม่ไปผิดทิศผิดทาง ครูเคยบอกกับแม่ว่าผมเป็นเด็กดี ไม่เกเร แต่มีปัญหาเรื่องการเรียน ผมก็จำไม่ค่อยได้เหมือนกันว่าทำ ถึงไม่ตั้งใจเรียนตอนเด็กๆ เพราะรู้สึกไม่สนุก เรียนไปทำไม รับความกดดันไม่ได้ เล่นเกมสนุกกว่า ไปที่โรงเรียนก็เหมือนเป้นส่วนเกินในห้องเรียน โดนตีทุกวันเพราะไม่ทำการบ้าน เรียนก็ได้ 1 กว่า จำได้ว่าไม่เคยได้ เกรดเฉลียเกิน 2 เลยตอน ม.ปลาย อาจจะ ม.ต้นด้วย ผมเป็นจำพวกเมื่อถึงวันที่สมุดพกออก ก็รีบเอาไปซ่อน ไม่ยอมให้พ่อแม่ดู อาจเพราะกลัวถูกดุ โดนกดดัน ลูกเพื่อนแม่ ก็มีแต่เก่งๆ สอบได้โรงเรียนดีๆ เรียนหมอ เรียนวิศวะ ส่วนผม ลายมือก็ไม่สวย โดนอาจารย์ด่าตลอด คิดไปคิดมา ก็เป้นเรื่องแปลกเหมือนกัน ที่โตขึ้นมา ผมกลับชอบการเรียนรู้อะไร มากกว่า

ตอนเด็กๆ เคยฝันว่าอยากเป้น นักวิทยาศาสตร์ จำได้ว่าเพื่อนก็ ฮือฮากันทั้งห้อง แต่อย่างน้อยก็ได้จบคณะเศรษฐศาสตร์ซึ่งมีคนบอกว่าเป้นวิทยาศาสตร์ที่สุดในสายสังคม และอื่นๆ อีกมากมาย
แต่ความทรงจำเดียวที่ผมยังจำได้และฝังใจจากเด็กจนถึงปัจจุบันนี้ ผมไม่ชอบเรียนในห้องเรียนแต่ผมชอบเรียนไรที่รู้แล้วเข้าใจ และเอาไปใช้ได้

ผมไม่คิดว่าครูอาจารย์สมัยก่อนหรอกนะครับ เพราะในความเป้นอาจารย์เป้นอาชีพที่เครียดมาก โดยเฉพาะถ้าเจอเด็กเชี้ยๆจำนวนมาก ซึ่งผมก็อยู่ห้องแนวนั้นเกือบตลอด แต่การด่าเด็กแรงๆ สาปแช่งเด็ก ขู่เด็กให้กลัว อาจเป็นวิธีที่ไม่เหมาะสม เพราะเด็กแต่ละคนนั้นมีการมองโลกไม่เห็นกัน เด็กบ้างคนบ้างก็มีปัญหาจริงๆ ทำให้ทัศนะคติเด็กมีปัญหาตามไปด้วย

แต่อาจารย์ก็ไม่สามารถปรับวิธีการสอนให้เหมาะได้ เพราะเด็กมันมีมากในแต่ละห้อง

ผมจำอาจารย์ ศิริพนอ ที่โรงเรียนโยธินได้ ตอนผมอยู่ ม.6 แกเป็นอาจารย์ชื่อเสียงว่าสอนดีในวิชาภาษาอังกฤษ แต่กลับเลือกห้องผมที่เป็นห้องคัด(ที่เกรดไม่ดี)มาแล้ว สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจกับการสอนแก ที่แปลกมาก เรียนในโรงเรียนมา 12 ปี ไม่เคยเจอใครสอนเยี่ยงนี้มาก่อน คือการ ไม่สอนตามหนังสือ แต่แทบจะสอนเริ่มต้นกันใหม่หมด เกือบตั้งแต่ a b c รวมไปถึง หลักการแปล หลักการทำโทษแปลกๆ เช่น ให้คัดลายมือเป็นเลคเชอร์ของแก 4-5 รอบ (น่าเสียดายที่ผมทำหายไปละ) ผมว่าอาจารย์แกเป้นคนไทยที่สอนภาษาอังกฤษให้คนไทยได้ีดีที่สุด แม้ผมจะไม่เก่งภาษาอังกฤษในเวลานั้นทันที ซึ่งการจะพูดได้ก็ตอนอยู่ ปี 3 ม.กรุงเทพ กว่าจะพูดคล่องก็ตอนเรียนเกาหลี กว่าจะอ่านภาษาอังกฤษได้ชำนาญก็ตอนทำวิจัยตอนปริญญาโท นับแล้ว 10 ปีพอดี กว่าจะได้ขั้นนี้ แต่สิ่งที่เป็นกำลังใจได้ตลอด คือ อาจารย์พนอ เนี่ยละครับ ดุบ้าง ด่าบ้าง ว่าบ้าง แต่ของพวกนี้ ไม่ใช่การว่าเด็กแบบเสียๆหายๆ แต่เป้นการว่าด้วยความหวังดี ซึ่งผมก็มีอาจารย์ให้ลักษณะนี้หลายคน แต่ในขณะเดียวกัน อาจารย์ที่ว่าเด็กด้วยความสะใจ มันส์ปาก ลงโทษแบบไม่ดีก็มี เหมือนกัน

สิ่งนั้นคือการสอนที่ดีนะครับ

แต่ที่มีปํญหาคือ การเรียน แล้วไม่สามารถให้เด็กมันเห็นประโยชน์ได้ว่าเรียนทำไม จนปัจจุบันเพือ่นผมหลายคนก็เป็นอย่างนี้ เรียนทำไม จบแล้วไม่ได้ใช้ บ้างครั้งผมก็อยากถามกลับเหมือนกัน ว่าเรียนแบบไหน ถึงจบไปแล้วใช้งานไม่ได้ ผมเรียนเศรษฐศาสตร์มา ยอมรับครับว่าเรียนก็ยากแล้ว แต่งานยิ่งหายากใหญ่ การเรียนถ้าเราไม่ได้จับต้องมัน ใช้มัน 3 เดือนก็ลืมหมดแล้วครับ ไม่วา่คุณจะเรียนไรมา ฝึกมาหนักแค่ไหหน แต่ถ้าไม่ใช้ ก็ลืม ปัจจุบัน มีเยอะครับ ที่ทำงานไม่ตรงสาย เพราะงานมันหายากมาก รูปแบบการทำงานก็เปลี่ยนไปหมดแล้ว งานเฉพาะทางเนี่ย ต้องม่าเรียนรู้กันต่อ ฝึกฝนกันต่อ หาผู้รู้เป้น อาจารย์ ที่ปรึกษาที่ดีในการเรียน

ปัญหาต่อมา ระหว่างคนเรียนเก่ง กับ คนเรียนไม่เก่ง คือ พื่นฐานครับ ผมจบมาก็เจอคนเรียนเก่งและทำงานเก่ง ยอมรับอย่างว่าพวกนี้เรียนรู้เร็ว เพราะพื้นฐานดี ทำให้เข้าใจอะไรได้ง่าย เหมือนกันสมองพื้นฐานที่แน่นแล้ว เอาอะไรไปสร้างมันก็ง่าย

พวกเรียนไม่เก่ง พื้นฐานไม่ดี ก็จะต้องอธิบายกันนานหน่อยหรืออาจต้องให้มีการปฎิบัติมากหน่อยถึงจะทำได้ ซึ่งผมว่าไล่กันทันได้นะครับแต่อาจต้องทำใจว่าเราต้องเหนือยมากกว่าคนอื่นหน่อย ซึ่งผมก็จัดเป้นพวกนี้

อันต่อมา คือ ความรับผิดชอบ การเรียนในห้องเรียนมีอย่างหนึ่งที่ฝึกฝนโดยเราไม่รู้ตัวก็เช่น ความรับผิดชอบนั้นเอง การทำการบ้านส่ง ก็เป้นการฝึกความรับผิดชอบ ความรับผิดชอบนั้นเป้นเรียนสำคัญมาก จะสำคัญยิ่งขึ้นตอนทำงานครับ คนมีความรับผิดชอบอย่างไรก็ได้งานดีกว่าคนไม่มีความรับผิดชอบ เด็กๆ อาจไม่สนใจ แต่ตอนผมทำงานแล้ว คำนี้ ใฃ้ชี้เป็นตายอาชีพการงานบางประเภทได้เลย หรือ ดูว่าใครไม่น่าคบได้ทันที ในวัยเด็ก อาจทำเล่นๆ ขำๆ ไม่สนใจ แต่กลายเป้นว่า ผมทำงานแล้ว ผมให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบมาก เพราะมันรวมถึง ศักดิ์ศรี หน้าทีการงาน และเงินทองต่อไปในอนาคตด้วย

กล่าวเป็นว่า ผมทำอาชีพอิสระนั้น อิสระต่อ คน เจ้านาย เวลา เพื่อนร่วมงาน สถานที่ ต้องไม่มีความอิสระต่อตนเอง ทำอย่างไรให้งานออกมาดีที่สุด ทำงานอิสระมาสักพัก ผมว่าช่วงมีงานมันโหดร้ายมาก สำหรับคนที่ฝีมือไม่ถึง ไม่มีคนแนะนำดีๆ และไม่มีความรับผิดชอบ ดังนั้นสิ่งที่นำมาใช้กำกับความรับผิดชอบนั้น คือเรื่องของ ระเบียบวินัย

ระเบียบวินัยเป็นตัวเสริมกับความรับผิดชอบ คนที่มีระเบียบวินัยดี ความรับผิดชอบจะได้ผลมาก

สิ่งเหล่านี้ที่เราได้จากโรงเรียนนอกเหนือจากการเรียนในห้อง มันมีเรียนอื่นๆ มาแทรกในระบบโดยที่เรามองไม่เห็น มันซึบซับโดนเราไม่รู้ตัว

อีกสิ่งที่อยากให้ทุกคนได้สังเกตุวิธีการสอนของอาจารย์แต่ละท่าน ว่า อาจารย์แต่ละคนเนี่ย มีวิธีถ่ายทอดความรู้ในนักเรียนอย่างไร และสิ่งสำคัญในนั้นคือ การเรียนรู้วิธีเรียนรู้

เมื่อก่อนผมเคยสงสัยว่าทำไมอาจาย์ที่สอนหุ้นผม จบหมอ แต่มันเก่งจังวะ หรือ เพื่อนผมจบหมอ แต่เขียนโปรแกรมเมอร์เก่งจัง หรือ อื่นๆพวกจบวิศวะแต่ทำงานการเงิน หรือวิเคราะห์เศณษฐกิจ สิ่งที่ผมได้คือ เค้าเรียนด้วยตัวเอง

หมอ พยาบาล ไรพวกเนี่ย เป้นคณะที่ได้ฝักงานตลอดเวลา ส่วนใหญ่จบมาทำงานได้เลย
อย่างหมอ เนี่ยเรียนหนัก ฝึกหนัก เรียนกัน 6ปี แถมมีสาขาอีก
เรียนหนักคือ อ่านหนังสือเล่มหนาเป็นทุกคืนๆ มีแต่ภาษาอังกฤษทั้งนั้น ทำสรุปให้จำได้ อื่นๆ อีกมากมาย
ฝึกหนักคือ การใช้ความรู้มาฝึก ผ่าตัดบ้าง ลงเวร ทำรายงาน อีกมากมาย

เห็นได้ว่า วิธีเรียนรู้นั้น เป็นแบบที่ผมว่าดีที่สุดเพราะ เค้าได้เรียนและทำจริง

ส่วนพวกวิศวะได้การคิดเป็นระบบ วิธีเรียนเป็นระบบ ระบบอยู่ในหัวอยู่แล้ว การประยุกต์อย่างอื่นก็ไม่มีปัญหาเท่าไร เมื่อนำไปศึกษาอย่างอื่น

ดังนั้น ความคิดผมดันกลับหัวกันหมด เมื่ออายุ 27

เมื่อก่อนผมมองว่าการเรียนวิชาพวก สายสังคม นั้นง่ายกว่า สายมนุษย์ สายวิทยาศาตร์

ตอนนี้ทุกอย่างในหัวผมมันเปลียนไปหมดแล้ว
กลายเป็นวิชาสายวิทยาศาสตร์นั้นง่ายกว่า โดยเฉพาะพวกคณิตศาสตร์ ซึ่งมีกระดาษกับดินสอ คุณก็สามารถฝึกฝนได้ตลอดเวลา เพราะคำตอบมันอาจมีได้แค่คำตอบเดียวหรือไม่มากนัก

แต่พวกสายสังคม ได้ข้อมูลมาก็จริง แต่คุณลองให้ คนมาวิเคราะห์สิ รับรอง ไม่มีคำตอบเหมือนกันแน่ แถมยังไม่รู้อีกว่า คำตอบไหนมันถูก

ผมลองกลับไปคิดดูว่า เมื่อก่อน วิชาที่ลอกกันได้ คือ เลข จนอาจารย์บ้างคนบอก วิธีเรียนแบบลอก อาจได้ผลก็ได้ แต่ให้โจทย์มันเยอะๆหน่อย ลอกเยอะๆ เดียวมันก็จำได้เอง

ในทางตรงข้าม
ภาษาไทย ให้แต่งกลอนสุขภาพ หลอกกันไม่ได้หรอกครับ นอกจากให้เพือ่นช่วยแต่ให้ แถมแต่งมาเสร็จแล้ว ยิ่งเปรียบเทียบได้อีกว่าใครเพาะกว่ากันอีก

วิชาเศรษฐศาสตร์ที่ผมเรียน ส่วนใหญ่เค้าบอกการแสดงภาพด้วยกราฟนั้นยาก การคิดเลขคำนวณค่าต่างๆนั้นยาก คำตอบตอนสอบเขียนไรไปก็ได้ให้มันมีหลักการหน่อยก้โอเคละ

ผมจบมาสัก 6 ปี เริ่มเข้าใจแล้วว่า ที่อยากนั้นคือวิเคราะห์ให้ถูกที่สุด และทำให้คนอื่นยอมรับการวิเคราะห์ของเราว่าถูกที่สุด แม่งยากที่สุด ยากแบบพวกการคำนวณ การเขียนกราฟนั้นกลายเป้น ของเด็กเล่นไปเลย

ปํญหาอีกอย่างของวิชาแนวสังคมศาสตร์นั้น อาจจะหาที่ฝึกได้ยาก เพราะคงไม่มีใครให้นักศึกษาปรับอัตราดอกเบี้ยธนาคารกลางเล่นเพื่อดูว่่าผลเป็นอย่างไร คงไม่มีใครให้ทดลองไรแปลกๆ กับวิถีชีวิตมนุษย์เพื่อดูว่า มันจริงตามที่สอนรึปล่าว หรือคงไม่มีใครเปลี่ยนระบอบการปกครองเล่นๆ เพื่อพิสูจน์ว่า คอมมิวนิวมันดีกว่าประชาธิปไตยหรือไม่

วิชาเศรษฐศาสตร์จีงได้ทำการนำคณิตศาสตร์มาใช้เพื่อพิสูจน์แบบจำลอง เพื่อพิสูจน์สิ่งที่เกิดขึ้นโดยใช้สมมุติฐานเป้นตัวอ้างอิง

สรุปผมคิดว่า วิธีการเรียนนั้น มีระบบ แนวทางหลายแบบ และทุกระบบนั้นมีข้อดี ข้อผิดพลาดต่างกัน ขึ้นอยู่เราจะสามารถนำจุดดีแต่ละระบบมาใช้อย่างไร และผู้เรียนรู้ควรมี ความรับผิดชอบ วิธีการเรียนรู้ วิธีการฝึกฝน ระเบียวินัยที่ถูกต้อง นำไปสู่ความรู้ที่ได้มาเพื่อใช้กับชีวิตของแต่ละท่านเอง

วันเสาร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

CPU กับการเรนเดอร์

หลังจากผมคิดเรื่อง CPU คอมตัวใหม่ของผมมาสักพักแล้ว ก็ตัดสินใจไม่ได้สักที่ แต่เมือจะนำมาทำงาน 3d เลยเจอเว็บดีๆ ที่นำเอางาน3d มาเรนเดอร์แข่งกันเลย

เว็บนั้นคือ http://www.benchwell.com/

เว็บนี้นำเอางาน 3d รูปที่เป้นโลโก้ของเว็บ มาเรนเดอร์ในเครื่องที่แตกต่างกัน โดยวันที่เขียน เครื่องแรงที่สุดเป็นของ intelXeon X7350 แต่มี 4 cpu รวมๆ ก็ 16 core ไม่ต้องเดา ต้องเป้นระดับ workstation ขึ้นไปแน่นอน

workstation (เวิร์กสเตชัน) เป็นคอมพิวเตอร์สำหรับการใช้ส่วนบุคคล แต่เร็วและมีความสามารถมากกว่า คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล มีแนวโน้มการใช้สำหรับธุรกิจและวิชาชีพ เวิร์กสเตชัน และการประยุกต์ออกแบบ สำหรับการใช้โดยบริษัทขนาดเล็กด้านวิศวกรรม, สถาปัตยกรรม, การออกแบบกราฟฟิก หรือส่วนบุคคลที่ต้องการไมโครโพรเซสเซอร์ที่เร็วกว่า มีขนาด RAM มาก และส่วนพิเศษอื่น ๆ เช่น graphics adapter ความเร็วสูง, ที่มาของการพัฒนาเทคโนโลยีเกิดขึ้น พร้อมกับระบบปฏิบัติการ UNIX และผู้ผลิตเครื่องเวิร์กสเตชันชั้นนำ ได้แก่ Sun Microsystems, Hewlett-Packard, DEC และ IBM" ความหมายจากhttp://www.widebase.net/knowledge/itterm/it_term_desc.php?term_id=workstation

ซึ่งไล่ลงมาดูคอมพิวเตอร์รุ่นที่ปัจจุบันผมใช้อยู่ที่บ้าน
Intel Pentium 4 2.8GHz ใช้เวลา ประมาณ 3 ชัวโมง โอ้นีมันต่างกันประมาณ 170 นาที แค่นั้นเอง เห้อ กลุ้มๆๆๆๆๆ

แต่เนื่องจากงบประมาณผมมีไม่ถึงขนาดได้ workstation อยู่แล้ว ผมเลยลงมาดูพวก สเปค PC ทั่วไป

AMD ตอนแรก ว่าเป็น เป้าหมายแรกๆ ที่ผมจะมาใช้ ด้วยราคาไม่แพงมาก
AMD Phenom X4 9850 Black Edition ที่จำได้ราคา(May 2009) ไม่ถึง 8000 บาท
ใช้เวลาเรนเดอร์ ประมาณ 17-21 นาที ตามเงื่อนไขการ clock หรือ 32-64 bit ตามเงือนไข
ความเร็วต่างกับPC ปัจจุบันผม ประมาณ 160 นาที

ต่อมา CPU ที่แรงที่สุดในพื้นพิภพ i7 (May 2009)
ใช้เวลาเรนเดอร์ ประมาณ ต่ำกว่า 11 นาที จากการทดสอบ
ดูราคาตัว Top i7 940 ราคาประมาณ 20000
คิดว่า CPU ตัวเดียว งบก็หมดละ แถมเกินอีก รวมทั้ง เมนบอร์ดมันต้อง ไม่ปกติ ดู เมนบอร์ดถูกที่สุด สำหรับ i7 ก็ เกิน 7000 ข ึ้น
ช่วยชีวิตคุณประมาณ เกิน 10 นาที จาก AMD พูดจริงๆ ก็คือ เกือบ 100% 20นาที กับ 10นาที
อืมมมมมมมมมมมม คงต้อง รอสัก 2 ปี ถึง i7 จะน่าเล่น ซึ่งวันนั้น อาจไป 16 core แล้วก็ได้

ดังนั้นผมลดสเปกลงมาเป็น core 2 Duo Quad ก็ได้ เมนบอร์ดใช้ได้ทั่วไป ราคาตัวTop ก็ 10000 นิดๆ
ดูตัว Q9550
จากตัวเปรียบเทียบ ไม่ดู clock ในเว็บนี้ clock ก้ันขึ้นหลัก 4 GHz กะให้เครือ่งไหม้เลยมั้ง
ผลออกมา ประมาณ 16-17 นาที
ดีกว่า AMD ประมาณ 2-5นาที

ซึ่งดูในตอนนี้ ความเร็ว intel จะเหนือกว่าในขั้นหนึ่ง หรือ เว็บนี้ ไม่ค่อยมีใครใช้ AMD ก็ไม่รู้นะครับ

ถ้าผมได้คอมใหม่เมื่อไรจะมาประกาศให้รู้ว่าผมใช้ CPU ตัวไหนครับ

81000378 error Msn รหัส error Msn ใน google

เกิดปัญหา Error ใน msn โดยเกิดขึ้นแค่เมล์เดียวของผมเท่านั้น

ผมเลยทดสอบว่าเกิดจากอะไร
ลอง sign in เข้าด้วย mail อื่น ก็ เข้าได้
ลองเข้าเมล์ที่เข้าไมไ่ด้จากเครือ่งอื่น ก็เข้าได้

ปัญหานี้ต้ัองเกิดจากเฉพาะเครือ่งผม กับ mail ผมแน่นอน

วิธีแก้ก็ ใช้ google ครับ

ผมเคยแก้ปัญหาบน msn มา3-4 ครั้งแล้ว
ทำให้ทราบได้อย่างหนึ่ง ว่าเราสามารถพิมพ์รหัส error ของ msn ใน googleได้ทันทีเลย ซึ่งที่ผมเจอจะขึ้่นมาเป้นวิธีแก้ปัญหา msn ล้วนๆ ไม่ค่อยเจอเรื่องอื่นๆ ซึ่งครั้งนี้ก็เช่นกัน แต่เจอหลายเว็บที่บอกวิธีแก้

โดยส่วนใหญ่ที่เจอชอบให้เข้าไปลบ log หรือ file แปลกๆ ซึ่งผมไม่ค่อยชอบเท่าไร จนไปเจอเว็บนี้

http://help.live.com/help.aspx?project=wl_messengerv1_2&market=th-th&querytype=topic&query=messenger_trou_error_81000378.htm

ดูแล้วน่าจะเป็นทางการที่สุด
ผมเลยตัดสินใจทำตามกระบวนการเจอเว็บนี้

โดยสิ่งที่ผมทำคือ เปิด start->run

แล้วพิมพ์คำสั่งชุดนี้ครับ

  • regsvr32 softpub.dll
  • regsvr32 wintrust.dll
  • regsvr32 initpki.dll
  • regsvr32 rsaenh.dll
  • regsvr32 mssip32.dll
  • regsvr32 cryptdlg.dll
  • regsvr32 dssenh.dll
  • regsvr32 gpkcsp.dll
  • regsvr32 slbcsp.dll
  • regsvr32 sccbase.dll
  • แค่นี้ msn ผมก็ใข้งานได้ปกติแล้วครับ

    วันเสาร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

    ครูใหญ่ 3 คน ในโลกออนไลท์

    มีโอกาสได้กินข้าวกับ ดร.วรา อาจารย์จากพระนครเหนือ ซึ่งได้ความรู้ใหม่ๆ และแง่คิดมากเลย ซึ่งดร.วรา ได้เล่าให้ฟังไว้เรื่องหนึ่ง คือ "อาจารย์ยืน (ยืน ภู่วรวรรณ) เคยบอกไว้ว่า ปัจจุบันตอนนี้มีครูอยู่ 3 คน" ซึ่งครู 3 คนนี้ได้แก่

    1. ครูกู (Google)
    2. ครูวิ ( Wikipedia )
    3. ครูยูป ( Youtube)

    พอฟังเสร็จ ก็ นึกได้ว่า ผมก็มีครู 3 คนนี้มาตลอด ปัจุจุบันแทบไม่มีวันไหน ไม่เคย ไม่เปิด 3 เว็บไซต์นี้เลย

    Google
    เป็น search engine ที่นิยมใช้งานมาที่สุดในเวลานี้ ซึ่งทำให้ทุกอย่างสามารถค้นหาได้อย่างง่ายมากขึ้นอย่างรู้อะไรก็ค้นหาได้ รวมไปถึงมีให้ทั่วแผนที่ เครื่องมือแปลภาษา และผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีกมากมาย รวมทั้งเครื่องมือส่งเสริมธุจกิจบนเว็บไซต์อีก Adsence Adword ซึ่งเป็นธุรกิจที่เกิดและโตอย่างรวดเร็วมาก

    สิ่งที่ได้จาก Google คือความรู้จำนวนมหาศาสเกือบทุกเรื่องใครหน้าไหนสนใจเรื่องอะไร Google ก็หาได้หมด ซึ่งใครต่อใครนำมาไว้บนโลกอินเตอร์ ไม่เว้นแม้กระทั้ง Blog ของผม ก็ค้นหาได้จาก Google ด้วย

    Wikipedia
    คือ สารานุกรมออนไลท์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เขียนโดยผู้คนหลากหลายมากหน้าหลายตาในโลกอินเตอร์เน็ท ซึ่งความแตกต่างในการหาข้อมูลกับ Google คือ การที่มีเนื้อหานั้นแค่หนึ่งเดียว สมมุติ ว่าคุณหา คำว่า IP Address ใน google กับ IP Address ใน wiki นั้นสิ่งที่ได้ต่างกันคือ เนื้อหาจากเว็บไซต์หน้าเดียว กับไม่รู้กี่ล้านเว็บไซต์

    ซึ่งความหลากหลาย อาจแตกต่างกัน ซึ่งสังเกตุได้ว่า wiki นั้นมีส่วนอ้างอิงอยู่เยอะมาก เพื่อทำให้บทความนั้นมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น

    Youtube
    เว็บวีดีโอที่ใหญ่ที่สุดในโลก สิ่งที่ผมได้จากที่นี้ คือ วิดีโอหลากหลาย มีตั้งแต่ผิดชอบชั่วดี คลิปการเมืองที่ดี และ ไม่ดี ผสมกันไป รวมไปถึงคลิป MV ดารารเกาหลี และอื่นๆ อีกมหาศาล ผมใช้ Youtube ประมาณ ปี 49 ซึ่งตอนนั้นยังไม่ค่อยคนไทยโพสเท่าไร และไม่คิดว่าเว็บ Youtube จะแจ้งเกิดได้ในไทย แต่เมื่อโลกเทคโนโลยีเปลียน มือถือทุกคนถ่ายวิดีโอได้หมด ก็แน่นอนว่า เว็บโพสวิดีโอก็โตตามด้วย รวมถึง มีทั้งข่าวในประเทศ รายการ รวมถึงหนังฮอลลีวู้ต ได้พูดถึงเยอะมาก ทำให้ทุกคนรู้จักเว็บ Youtube ดีขึ้น และเป็นแหล่งเว็บชุมชนใหม่ ในกับคนไทยไปโดยปริยาย

    ซึ่งวีดิโอที่หลากหลายทำให้ผู้ชมต้องเลือกชมสิ่งที่ต้องการเอง ส่วนผมใช้หาความรู้แปลกใหม่ๆ ไม่น่าบ้างคนเอา วิดีโอสอน จาก MIT มาโพสไว้ ซึ่งทำให้เราได้รู้ว่า ไอ้ที่ว่าเก่ง เค้าสอนกันอย่างไร

    รวมถึง งานศิลปะ ทั้งวาด ระบายสี ด้วย สีน้ำมัน เกรยอง ชาโคล เค้าทำกันอย่างไร

    เรียนเปียโน อยากได้ตัวอย่างของ สเกล ทั้งหลาย ก็มีคนถ่ายมาให้ดู

    เนี่ยละครับ

    ครูใหญ่ 3 คน ซึ่ง มีวิธีการสอนแบบแตกต่างกันไปตาม สไตล์ใครสไตร์มัน

    สุดท้ายการใช้สื่อพวกนี้ต้องขึ้นอยู่กับผู้ใช้ จะนำประโยชน์มาใช้ได้มากแค่ไหน อาจไปคุณอนัันต์ หรือ โทษมหันต์ อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ละครับ

    วันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

    เครื่องใหม่ของผม CPU จะเป็น Core 2 Quad หรือ i7

    หลังจากเครื่องผมไม่สามารถแก้ไขได้หลังจากการทำหลาย ๆ วิธี

    สิ่งที่เหลือและยังไม่ได้ทำ มี 2 อย่างที่คิดได้

    1. Format
    2. ซื้อใหม่

    เหตุที่ยังไม่ฟอร์เมทเพราะยังมีข้อมูลอีกเยอะ แถม เอาออกมาไม่ได้ด้วย

    ดังนั้นแนวโน้มจะมาเป็นข้อที่ 2 คือซื้อใหม่

    คอมเครื่องนี้ เป็นคอมเครื่องที่ 2 ของผม ใช้งานได้ค่อนข้างดีมาก รวมเวลามา 6 ปีได้ละ มีเปลียนแค่ Hard disk เพิ่ม RAM เปลี่ยนการ์ดจอ ต่างกับเครื่องแรกในชีวิต ที่อัพเกรดอยู่ตลอดเวลา

    ความจริงความเครื่องนี้ใช้งานค่อนข้างดีมาก ทน ยิ่ง 3 ปีหลังแทบเปิด 24 ชั่วโมงต่อปี และผมภาคภูมิใจกับความเก่าของมันมาก ถึงขนาดไปเล่าให้นักศึกษาฟัง ทุกคนต้องร้อง อู้ออ กันเลย แล้วถามผมว่า "อาจารย์ใช้ทำงานได้อย่างไร" ถ้าต้องเลิกใช้จริงๆ คงเสียใจเหมือนกัน

    ทำให้วันนี้ผมต้องมานั่่งหาข้อมูลในการซื้อคอมใหม่ ซึ่งสิ่งที่โผล่ขึ้นมาในหัวมี 2 อย่าง

    1. ซื้ออุปกรณ์มาประกอบ
    2. ซื้อคอมพิวเตอร์มียี่ห้อ

    พูดถึงกรณี 2 ก่อน เนื่องจากผู้ออกทุนใหญ่คือ คุณแม่ผม เป็นโรคไม่ชอบไปพันธุ์ทิพย์ และ ไม่มีเงินสด ดังนัี้น ข้อ 2 น่าเป็นโอกาศที่โดนเลือกมากที่สุด

    ซึ่งผมต้องคิดอีก ว่าจะเอา ยี่ห้อไหนดี HP, Dell อันนั้นไว้ตัดสินใจอีกที

    แต่ในใจผมก็ยังคิดว่าทางเลือก 1 ความจริงน่าจะดีกว่า ถึงจะเสี่ยงไปบ้าง แต่ของได้ราคาถุกกว่าแน่นอน

    ทำให้ผมต้องมาสนใจเริ่มมองดู พวก CPU ในวันนี้

    เริ่มจากผมไปดูของที่ ฟอร์จูน แล้วเห็นราคา CPU Core 2 DUO Quad ราคา 10000-10500 และนึกถึงคำว่า i7 ในงานคอมมาร์ทที่ผ่าน

    ทำให้เริ่มอยากรู้อีกแล้ว กลับมาก็เลยลองเปิด google หาคำว่า เพราะสงสัยว่า มันต่างกันอย่างไร ก็ได้เว็บนี้มาครับ
    http://forums.overclockzone.com/forums/showthread.php?t=437343
    ซึ่งให้ความแตกต่างอย่างที่ผมต้องการทราบได้เยอะเหมือนกัน จากคุณ zephyrus07 ได้อธิบายไว้ดังนี้

    "
    Core 2 Duo - Core 2 Quad

    ฺี1.ใ้ช้ระบบ FSB (Front Side Bus)ในการรับส่งข้อมูล ความเร็วอยู่ที่ 800-1600 MHz
    - ในการรับส่งข้อมูลต่างๆกับอุปกรณ์อื่นต้องอ้อมผ่าน North Brigde ซึ่งค่อนข้างช้า

    2.ใ้ช้สถาปัตยกรรมแบบ Core Microarchtecture เทคโนโลยีผลิต0.65-0.45 nm

    3.เป็น CPU 2 คอร์แท้ๆ ใน C2D และ 4 คอร์เทียม ใน C2Q

    - C2D 2 Processor on 1 chip(die) in 1 CPU
    - C2Q 2 Processor on 1 chip(die)x2 in 1 CPU

    4.L2cache 3-12 MB ไม่มี L3 cache

    5.ใช้ Socket LGA 775 ขา ไม่หนับหนุน Intel Turboboost , Hyper Threading

    6.รองรับ Ram DDR II Bus 533-1066 แบบ Dual Channel


    Core i7 920-965 Extreme Edition

    1.ใช้ระบบ QPI(Quick Part Interconnect) ในการรับส่งข้อมูล ความเร็ว 4.8-6.4GT/s
    - ในการรับส่งข้อมูล ไม่ต้องผ่าน North Brigde แล้ว เร็วขึ้นมาก

    2.ใช้สถาปัตยกรรมแบบ Nehalem เทคโนโลยีการผลิต ที่ 0.45 nm

    3.เป็น CPU 4 คอร์แท้ๆ ทั้งหมดในตระกูลนี้

    - Core i7 4 Processor on 1 chip(die) in 1 CPU

    4.L2cache 256KB x4 L3cache 8 MB

    5.ใช้ Socket LGA 1366 ขา หนับหนุน Turboboost , Hyper Threading

    6.รองรับ Ram DDR III Bus 1066 -1600 แบบ Triple Channe "

    และอ่านจากคนอื่นๆ ทำให้เข้าใจว่า Core 2 Quad เป็น 4 หัวปลอม i7 เป็น 4 หัวแท้


    และการใช้งานผ่านงานจริงtechxcite.com ซึ่งเห็นแล้วยั่วน้ำลายเหลือเกินอยากไปสอยมาวันนี้


    แต่เรื่องราคา ก็ เป็นปัจจัยตอนไปที่ต้องคำนึง และ Mainbroad ด้วย เพราะ i7 ตัวนี้ น่าจะต้องมี Mainbroad ที่เฉพาะเจาะจงรุ่นด้วย ซึ่งเข้าไปดูจาก pcresource เห็นได้ว่ามีรุ่นที่ใช้กี่รุ่นในตอนนี้ ทำให้ต้องคิดก่อนว่าจะทำใช้ CPU ตัวไหนดี

    วันจันทร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

    เปิด projects :หาวิธีแก้ปัญหา explorer.exe กิน CPU 99 (1ขั้นระบุปัญหา)

    ตอนนี้ที่บ้านมีปัญหาการเปิดโฟรเดอร์แล้วมันช้ามาก หรือ ใช้คำว่าไม่ทำงานเลยน่าจะเหมาะสมกว่า แล้วก็การสำราวโดย การเรียกดู Task manager ขึ้นมา ก็เห็นได้ว่า explorer.exe ใช้ CPU 99 เลยคิดว่าต้องนี้หาเป็นสาเหตุจากการคิดอุปมาอุปไมย windows มี IE (Internet Explorer) File Explorer ตัวนี้โปรแกรมนี้ น่าจะเป็นแบบ File Explorer แน่เลย รวมถึงการที่เปิดโฟรเดอร์ต่างๆ ไม่ได้ เลยมั่นใจว่า น่ามาจากตัวนนี้

    ทำให้ต้องหาความหมายเพื่อยืนยันความคิดว่า คิดถูกต้อง

    ได้คำอธิบายภาษาไทยมาเว็บหนึ่ง
    http://www.zone-it.com/60255

    ส่วนเนื้อหาสำคํญจาก คือhttp://www.zone-it.com/60255
    หน้าที่ของ explorer.ex
    หน้าที่หลักๆของเจ้า explorer.exe ก็ได้แก่
    1. เป็นตัว Windows Graphic Shell เพื่อจัดการและค้นหา เรียกดู Drive, ไฟล์, โฟลเดอร์ ต่างๆ
    2. เป็นตัวที่แสดงหน้าจอ Desktop, ปุ่ม Start , Taskbar
    ซึ่งถ้าเราทำการ remove process explorer.exe นี้ออกไปจาก task manager แล้วหล่ะก็ เราจะไม่เห็นและไม่สามารถใช้งาน หน้าจอ Desktop, ปุ่ม Start , Taskbar รวมถึงตัวจัดการและค้นหา เรียกดู Drive, ไฟล์, โฟลเดอร์ ซึ่งก็คือเจ้า File Manager ที่ส่วนใหญ่รู้จักและคุ้นเคยในชื่อ My Computer นั่นแหล่ะครับ
    ตำแหน่งที่อยู่ของ explorer.exe
    โดยทั่วไป เจ้าไฟล์ explorer.exe นี้ จะถูกเก็บไว้ที่ %windir% ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือ c:\windows นั่นเองครับ ถ้าอยู่นอกนั้นให้คิดไว้เลยว่า มันคือ ไวรัส, สปายแวร์, โทรจัน, หรือนอนอินเตอร์เน็ต ครับ ซึ่งสามารถใช้โปรแกรม Security Task Manager (ฟรี) ตรวจสอบได้ ยกตัวอย่างไวรัสที่ effect กับ explorer.exe เช่น

    * W32.MyDoom.B - Symantec Corporation และอื่นๆ เป็นต้น


    ซึ่งอ่านดูแล้ว ความคิดผมก็ถูกในระดับหนึ่ง แปลง่าย มันก็ คือการเรียก โฟร์เดอร์ แบบ Graphic user interface

    หลังจากอ่านบทความนี้แล้ว เพิ่งรู้อีกอย่าง ว่า Ctrl+Shift+Esc เรียก task manager ได้ ปกติ กดแต่ Ctrl+Shift+ Del

    วันพฤหัสบดีที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2552

    ผมหาข้อมูลจาก SEO จาก wiki 

    เอสอีโอ (SEO ย่อจาก search engine optimization แปลว่า การทำให้เหมาะสมสำหรับเสิร์ชเอนจิน) เป็นวิธีการพัฒนาปริมาณและคุณภาพของผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ผ่านทางเสิร์ชเอนจินในลักษณะธรรมชาติ (เรียกศัพท์เฉพาะว่า "ออร์แกนิก") ซึ่งผ่านทางเป้าหมายของคำค้นหาที่ต้องการ

    เอสอีโอเป็นการเลือกทางเลือกที่ดีที่สุดในเสิร์จเอนจิน คือ การปรับปรุงเว็บไซต์ด้วยเทคนิคต่างๆ เพื่อให้ติดอันดับต้นๆ ของเว็บเสิร์ชเอนจิน เวลาที่คนเข้ามาค้นหาในเว็บเสิร์ชเอนจิน เช่นที่ กูเกิล ยาฮู หรือ เอ็มเอสเอ็น ด้วยคำสำคัญที่ต้องการค้นหาแล้ว จะปรากฏลิงก์ของเว็บไซต์ของเราเพื่อทำให้ติดอันดับต้นๆ ในหน้าผลการค้นหา ซึ่งการทำ SEO นั้นจะประกอบไปด้วย การปรับปรุง-เพิ่มคำสำคัญ (คีย์เวิร์ด) ในหน้าเว็บไซต์ การปรับแต่งหน้าเว็บไซต์ให้มีขนาดเล็ก การใช้ meta tag และวิธีอื่นๆ ควบคู่กันไป

    เพื่อให้ง่ายต่อความเข้าใจเกี่ยวกับ SEO นั้นก็เหมือนการทำการตลาดโดยการทำความเข้าใจว่าอัลกอริทึมของเสิร์ชเอนจินนั้นทำงานอย่างไร และ คำๆไหนที่ผู้เยี่ยมชมมีความต้องการที่จะค้นหา เพื่อช่วยเลือกเว็บเพจที่ตอบสนองความต้องการและความสนใจของผู้ทำการค้นหา

    การสร้างเว็บเพจโดยการใช้เทคนิค SEO นั้นก็ไม่ได้หมายถึงการสร้างเนื้อหาที่เป็นที่ชื่นชอบต่อเสิร์ชเอนจินเพียงอย่างเดียวโดยที่ไม่คำนึงถึงผู้เยี่ยมชม ซึ่งวิธีการทำ SEO นั้นอาจจะมีการเกี่ยวข้องกับการปรับปรุงโค๊ดของเว็บไซต์, การนำเสนอ, โครงสร้างของเว็บไซต์ และสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งของการทำ SEO ก็คือเนื้อหาที่มีประโยชน์ และจะต้องเป็นเนื้อหาต้นฉบับ

    หลักในการทำ SEO นั้นเป็นเทคนิคในการทำเว็บไซต์ ให้ติดอันดับต้นๆ ด้วยคำสำคัญโดยเน้นให้ผลของคำค้นปรากฏอยู่ในส่วนของ Natural Search Result (Organic Search Result) หรือในส่วนของผลลัพธ์ทางด้านซ้ายมือของเว็บเสิร์ชเอนจิน


    จาก http://th.wikipedia.org/wiki/เอสอีโอ


    วันพุธที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2552

    SEO 2 หลังจาก google หาเว็บผมเจอ

    หลังจากผมได้ทำการ แอด เว็บไซต์ลงไป

    ในที่สุดผมก็หาเว็บนี้เจอ ด้วยคำว่า GkengETC

    ซึ่งลองหาด้วยคำอื่นๆ ผลปรากฏว่า


    ไม่เจอเลย


    555

    ในช่วงนี้ผมยังต้องทำโปรเจคจบก่อน เลยยังไม่มีเวลา กระโดดมาทำ SEO เต็มตัว

    อีกประมาณ 2เดือน ผมจะทำให้เต็มที่

    วันพุธที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2552

    SEO ของ Google

    ระหว่างกำลังนั้งหา วิธีอื่นๆ ที่จะทำให้ blog ผม ปรากฎใน google ก็เจอ เว็บของ google ที่เกี่ยวกับ การสร้างไซต์ที่ใช้งานกับ Google ได้ง่าย: แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด 

    หรือbest particle นั้นเอง


    ลองศึกษาดูนะครับ

    Google Add URL :เ มื่อผม เพิ่ม เว็บ ลง Google

    ปัญหาในบทความที่ผมเจอ คือการไม่มีชื่อเว็บไซต์ในเวลาหา ใน google

    สิ่งเป็นระยะเวลานานมาก เกือบเดือนแล้ว
    ในขณะที่เว็บblog อีกที่หนึ่ง แค่ 1 สัปดาห์โผล่ใน google แล้ว 

    พออ่านแล้วเริ่มรู้สึกว่า blog เรานั้นมีอะไรผิดพลาดรึปล่าว มีคำรุนแรงไหม อื่นๆ อีกมากมาย

    ผมจึงเริ่มหา วิธีการในการนำเว็บขึ้น google ในได้

    จึงไปเจอ เว็บของGoogle ที่ทำหน้าที่  เพิ่ม URL ของคุณลงใน Google




    ดังนั้น
    ผมเ ลยขอลองเสี่ยง ใส่ชื่อดูก่อน แล้วผล เป็นอย่างไร ในตอนต่อไปจะมาเล่าให้ฟัง

    ส่วนในตอนนี้ผมจะพูดถึงการหาข้อมูลก่อนนะครับ
    มาถึงอ่านข้อมูลการใช้เว็บ addurl แล้วก็ ทำใจไว้ก่อน ว่าblog ผม อันนี้ อาจเป็นBlog ส่วนตัวตลอดกาล

    เพราะ สิ่งที่กูเกิ้ลเขียนบอกคือ

    ใช้งานที่ตั้งของคุณในอินเทอร์เน็ตร่วมกับเรา

    เราเพิ่มและอัปเดตไซต์ใหม่ๆ ในดัชนีของเราทุกครั้งที่เรารวบรวมข้อมูลเว็บ และเราเชิญคุณให้ส่ง URL มาที่นี่ เราไม่ได้เพิ่ม URL ทั้งหมดที่ถูกส่งมาลงในดัชนีของเรา และเราไม่สามารถคาดการณ์หรือรับประกันว่า URL จะปรากฏขึ้นเมื่อใดหรือจะปรากฏขึ้นหรือไม่

    โปรดป้อน URL แบบเต็มของคุณ รวมถึง http:// คำนำหน้า ตัวอย่างเช่น: http://www.google.co.th/นอกจากนี้ คุณอาจเพิ่มความคิดเห็นหรือคำหลักที่อธิบายเนื้อหาของหน้าเว็บของคุณ ซึ่งจะนำไปใช้สำหรับข้อมูลของเราเท่านั้น และจะไม่ส่งผลต่อวิธีการที่หน้าเว็บของคุณได้รับการจัดทำดัชนีหรือใช้โดย Google


    ประมาณสัปดาห์หน้าผมจะมา สำรวจอีกครั้งว่ามีอะไร เปลียนแปลงบ้าง

    วันพฤหัสบดีที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2552

    GOOGLE ANALYTIC

    ตอนแรกผมกะว่าจะลองรวบรวมข้อูลเรื่อง GOOGLE ANALYTIC ดู

    แต่ก็ยังไม่เห็นว่ามีที่ไหนที่เหมาะ ในจำนวนปริมาณที่สูงๆ พอที่จะรวบรวมมาไว้ให้ไปหาอ่าน

    แต่เจอ blogที่หนึ่ง บทความเขียนได้น่าสนใจมากครับ

    มากที่สุด ตั้งแต่ลอง sreach มา เลยยกลิ้งให้เพื่อนตามไปอ่านกันเองแล้วกันนะครับเห็นสงวนลิขสิทธ์ด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมากๆ

    เคยเรื่องลิขสิทธ์อยู่เหมือนกัน โดยวันหลังผมจะมาอธิบายให้ทราบนะครับ

    ตามไปดู Google Analytic จากที่นี้ันเลยดีกว่าครับ

    http://blog.maxincube.com/analytics/for-newbies/7-faq-on-google-analytics-chapter-6-google-analytics-account

    วันจันทร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2552

    จ่ายเมื่อแสดง (Pay Per Impression)

    ความสงสัยผมเริ่มทำงานอีกแล้ว เมื่อ ผมเริ่มคิดว่า จะได้เงินเมื่อไรเน้อ

    ทำให้เห็นทำหนึ่งว่า Page impressions เลยสงสัย ว่ามันคือ อะไร

    ก็เลยเริ่มหา ใน google อีกครั้ง

    และก็ได้ บทความหลายๆบทความที่น่าสนใจ
    ----------------------------------------------------------
    ----------------------------------------------------------

    วิธีการคำนวณรายได้จาก Adsense

    รูปแบบการได้รายได้จากการนำโฆษณาของ Adsense มาติดไว้ที่เว็บไซต์เราจะเป็นรายได้ที่เกิดจากเว็บไซต์ต่างๆ มาลงโฆษณากับทาง Google และเมื่อมีการโฆษณาเกิดขึ้นผ่านหน้าเว็บไซต์เรา รายได้ก็จะมีการแบ่งกันระหว่างเว็บไซต์เรา กับ Google ผู้ซึ่งนำโฆษณามาลงให้ โดยมีอยู่ 2 รูปแบบได้แก่ รายได้เมื่อมีการคลิกโฆษณาที่แสดงอยู่ในหน้าเว็บไซต์เรา (Pay Per Click - PPC) และรายได้จากการแสดงโฆษณา (Pay Per Impression)

    * จ่ายเมื่อคลิก (Pay Per Click)

    Google จะจ่ายเงินให้กับเราทุกครั้งเมื่อมีคนคลิกโฆษณาในหน้าเว็บไซต์ของเราเท่า นั้น ดังนั้นหากโฆษณาของ Google จะแสดงผ่านสายตาของผู้เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์นับพันๆครั้ง เราก็จะไม่มีรายได้จากการแสดงนั้น นอกเสียจากจะมีการคลิ๊ก

    * จ่ายเมื่อแสดง (Pay Per Impression)

    รูป แบบการจ่ายเงินจะคิดตามจำนวนครั้งในการแสดงของโฆษณา โดยจะคิดต่อการแสดงของโฆษณา 1,000 ครั้งต่อการจ่าย หรือเราเรียกวิธีนี้ว่า CPM โดยไม่นับว่าจะมีการคลิกทั้งหมดกี่ครั้งก็ตาม

    ที่มาhttp://adsensethailand.exteen.com/20070616/adsense-5
    -----------------------------------------------------------------------------------------

    1. AdSense for Content โฆษณาที่เกี่ยวกับเนื้อหาในเว็บของเรา (มีทั้งแบบข้อความ และ รูปภาพ)
    Google จะให้คุณสร้าง Code ขึ้นมาเพื่อนำโฆษณามาติดที่เว็บไซต์ของคุณ ในส่วนนี้คุณสามารถกำหนดขนาด ความกว้าง ความสูง สี ของโฆษณาได้ ซึ่งจะมีทั้งแบบข้อความ และ แบบรูปภาพ (ในส่วนของรูปภาพไม่สามารถกำหนดสีได้ นะครับ แต่กำหนดขนาดได้) การกำหนดสีได้นี้มีผลดีตรงที่ เราสามารถกำหนดให้กลมกลืนกับสีเว็บไซต์ของเรา หรือกำหนดให้สวยงาม
    โดยโฆษณาที่ปรากฎในเว็บไซต์นั้น Bot ของ Google จะสำรวจเนื้อหาภายในเว็บไซต์ หากข้อมูลในเว็บเกี่ยวกับเรื่องอะไร Google ก็จะส่งสินค้าประเภทนั้นๆ เข้ามา เช่น หน้าเว็บของคุณมีคำว่า Game สินค้าที่ส่งมาก็จะเป็นพวก Game หรือคุณทำเว็บเกี่ยวกับ Sport (กีฬา) สินค้าที่ส่งมาก็จะเป็นพวกที่เกี่ยวกับกีฬา เช่น football golf ฯลฯ เป็นต้น

    การจ่ายเงินในบริการนี้ จะจ่าย 2 กรณี คือ
    1.1 Pay Per Click (จ่ายเมื่อคลิก) เมื่อมีคนคลิกโฆษณา Google ก็จะจ่ายค่าคลิกให้เราทันที
    1.2 Pay Per Impression (จ่ายเมื่อโฆษณาแสดง) เมื่อนำโฆษณาไปติด Google ก็จะคิดค่าโฆษณาให้ แต่โดยทั่วไปต้องแสดง 1,000 ครั้งจึงจะได้เงินและได้ไม่มากเท่าไหร่นัก

    ที่มา http://www.thaifreescript.com/adsense/01-intro.html
    -----------------------------------------

    • จ่ายเมื่อคลิก (Pay Per Click)
    เมื่อคนที่เข้าชมเว็บไซต์ของคุณ คลิกที่โฆษณาของ Google AdSense ซึ่งแต่ละคลิกจะได้ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับผู้ที่ทำ Google Adwords จ่ายให้ Google มากน้อยเท่าไร ถ้าจ่ายให้มากคุณก็จะได้มากด้วยเช่นกัน
    • จ่ายเมื่อแสดงโฆษณา (Pay Per Impression)
    อันนี้จะจ่ายให้คุณเมื่อมีการแสดงโฆษณา ครบ 1,000 ครั้ง โดยไม่นับว่าจะมีคนคลิกกี่ครั้งก็ตาม คุณจะไม่ได้รายได้จากการคลิก

    Page impressions 1130 Ads ที่แสดงในหน้าเว็บของคุณอาจเป็นแบบ จ่ายเมื่อคลิก (Pay Per Click) จึงไม่มีการคิดเงินให้คุณ

    ที่มา http://www.makemoney.bcoms.net/webboard/detail.asp?id=56
    -------------------------------------------------------------------------------------------------
    เอาไว้ดูครับ ว่ามีการเปิดหน้าที่ติดแอดเรากี่ครั้งแล้ว
    bugmai

    ที่มา http://www.google.com/search?q=%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99+adsense&sourceid=navclient-ff&ie=UTF-8&rlz=1B3DVFA_enTH236TH239&aq=t
    ----------------------------------------------------------------------------------------------
    รูปแบบรายได้จาก Google Adsense
    อย่างที่ได้บอกไว้ว่าโฆษณาเหล่านี้มาจากบริษัทธุรกิจทั่วโลกที่ต้องการโฆษณาสินค้า บริการของตนเองผ่านทาง Google ซึ่งก็จะต้องจ่ายค่าโฆษณาให้กับทาง Google เมื่อคุณนำโฆษณามาติดที่เว็บไซท์ของคุณ รายได้ของคุณก็จะมาจากเงินที่ผู้ลงโฆษณาจ่ายให้กับ Google ซึ่งทาง Google จะแบ่งรายได้ส่วนนั้นมาให้คุณด้วย โดยกรณีที่คุณจะได้เงินก็คือ

    1. เมื่อมีการคลิกที่โฆษณาในเว็บไซท์ของคุณ รูปแบบนี้เรียกว่า PPC (Pay Per Click) หรือ จ่ายเมื่อคลิก วิธีการนี้ถ้าผู้เยี่ยมชมเว็บไซท์ของคุณไม่ได้คลิกที่โฆษณา ต่อให้แสดงโฆษณาไปสักกี่ครั้งคุณก็ไม่ได้เงิน คุณจะได้เงินต่อเมื่อมีการคลิกที่โฆษณาเท่านั้น
    2. เมื่อมีการแสดงโฆษณาที่เว็บไซท์ของคุณ (Pay Per Impression) หรือ จ่ายเมื่อแสดง โดยคิดตามจำนวนครั้งในการแสดงโฆษณาบน
    เว็บไซท์ของคุณ ตามอัตราส่วนการแสดงโฆษณา 1000 ครั้งต่อการจ่าย 1 ครั้ง วิธีการนี้เรียกว่า CPM (Cost Per Thousand Impression) โดยไม่นับการคลิก ไม่ว่าจะคลิกกี่ครั้งก็ตาม ต้องแสดงโฆษณาครบ 1000 ครั้งเท่านั้นคุณถึงจะได้เงิน ดูตัวอย่างการแสดงรายได้ที่ท่านจะได้รับจากภาพ
    คุณจะมี Account เพื่อสามารถตรวจสอบสถิติทั้งหมด ทั้งอัตราการคลิก เงินรายได้ที่ได้รับ ฯลฯ

    ที่มา http://eduso.coolfreepage.com/
    -------------------------------------------------------------------------------------------------

    จนมาถึงตรงนี้แล้ว ผมก็ยังสงสัยอยู่
    สรุป ถ้ามันโชว์ ครบ 1000 ครั้งแล้ว ผมจะได้เงิน กี่ ดอล

    มีความเห็นหลายหลาก

    ดังนั้น บทความนี้ยังไม่สามารถตอบคำถามค้างในผมได้

    เมื่อ มันครบ เมือ่ไร ผมจะมาเล่าให้ฟังอีกครัั้งนะครับ

    เพราะตอนนั้นผมคงมีคำถามใหม่ๆ ที่ต้อง หาคำตอบอีก

    วิธีสมัคร adsense รวมคำแปล การสมัคร adsense

    พูดความจริงว่าก่อนที่ผมจะตัดสินใจสมัคร adsense นั้ัน ค่อนข้างคิดมาก เหมือนกัน ด้วยเป็นคนขี้สงสัย และอีกทั้งไม่รู้ว่าจะทำเว็บอะไรดี

    แต่ผมก็เปลียนความสงสัยเป็นเวบได้ โดยใช้กิวัตรประจำวัน ที่ชอบอ่าน ชอบรู้ และ หาข้อมูลใน Google มาตลอด

    --------------------------------------------------------------------------
    --------------------------------------------------------------------------
    วิธสมัคร Google AdSense

    ใน ขณะนี้ Google Adsense ยังไม่รองรับภาษาไทย แต่อีกไม่นานนี้ จะรับเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาที่เป็นภาษาไทยด้วย (ให้ทำเว็บเป็นภาษาอังกฤษ) การสมัครให้คลิกที่ Sign up now >> แล้วกรอกข้อมูลต่าง ๆ ตามที่ Google กำหนด แล้วรอการตอบรับจาก Google ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน ในการตรวจสอบข้อมูล

    ข้อมูลที่ต้องกรอกในการสมัคร

    Website URL: [?] ใส่ชื่อเว็บของคุณ ตัวอย่างเช่น www.bcoms.net

    Website language: เลือกภาษา ให้คุณเลือกเป็น English ครับ

    Account type: [?] เลือกประเภทของเว็บคุณ ว่าเป็นเว็บส่วนตัว หรือเว็บเกี่ยวกับธุรกิจ

    Country or territory: เลือกประเทศ ในที่นี้เลือกประเทศไทยครับ

    Payee name (full name): ใส่ชื่อผู้รับเงิน

    ** หมายเหตุ คุณไม่สามารถเปลี่ยนชื่อผู้รับเงิน และประเทศได้ หลังจากที่คุณสมัคร ให้ดูดี ๆ ว่ากรอกถูกต้องหรือไม่

    Address line 1: , Address line 2 (optional): ใส่ที่อยู่

    City: แขวง/ตำบล

    State, province or region: จังหวัด

    Zip or postal code: รหัสไปรณีย์

    Phone: เบอร์โทรศัพท์ เช่น 02-2345868 ก็ให้กรอก 6622345868 หรือ 04-0077562 ก็เป็น 6640077562

    Fax (optional): เบอร์ Fax

    Email preference: ให้ติ๊กเครื่องหมายถูกครับ (อันนี้ Google จะส่งข้อมูลข่าวสาร รวมถึงทิปต่าง ๆ มาให้คุณครับ)

    Product(s): [?] ให้ติ๊กเครื่องหมายถูกทั้ง 2 อันเลยครับ ทั้ง AdSense for Content และ AdSense for Search

    Policies ให้ติ๊กเครื่องหมายถูกทั้งหมดเลยครับ อันนี้เป็นข้อตกลงของ Google เช่น จะไม่คลิกโฆษณาบนเว็บของตัวเอง

    หรือให้คนอื่นคลิก ,ไม่โฆษณาในเว็บที่ไม่เหมะสม ลามกอนาจาร เป็นต้น

    Email address: ใส่อีเมล์ของคุณ

    Password: ใส่รหัสผ่าน (7 ตัว หรือมากกว่านั้น)

    Re-enter password: ใส่ รหัสผ่าน ซ้ำอีกครั้ง

    ** หมายเหตุ ข้อมูลของคุณต้องกรอกเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด

    เมื่อกรอกรายละเอียดต่าง ๆ ครบแล้วให้คลิกที่ Submit Information
    หลังจากนั้นให้คุณไปเช็คอีเมล์ที่ได้สมัครไว้ เพื่อยืนยัน เมื่อยืนยันแล้วให้รอประมาณ 2-3 วัน เพื่อ Google ตรวจสอบข้อมูลของคุณ และจะส่งอีเมล์มาแจ้งว่าคุณสมัครผ่านหรือไม่ ถ้าคุณผ่านการสมัครแล้ว ก็ให้อ่าน วิธีเอา Code ไปติดที่เว็บคุณ ต่อนะครับ

    เว็บไซต์ที่ Google ห้ามไม่ให้สมัคร (ถึงสมัครไปก็ไม่ผ่าน)
    • ความรุนแรงต่อต้านบุคอื่นกลุ่มหรือองค์กร
    • Hacking
    • Spam Keyword
    • เว็บไซต์การพนัน
    • โฆษณาทำเพื่อโฆษณาเพียงอย่างเดียว โดยไม่มีเนื้อหาอย่างอื่นเลย
    • เนื้อหาที่ผิดกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
    • สิ่งกระตุ้นให้ผู้ใช้ บุคคลที่สามมาแสวงหาผลประโยชน์
    • อาวุธสงคราม
    • ขายเครื่องดื่มที่มีแอลกฮอล
    • บุหรี่
    • การปลอมแปลงสินค้า
    • เวปที่โกหกหลอกหลวง
    • เว็บลามกอนาจาร

    ที่มา http://tteen.igetweb.com/index.php?mo=3&art=262891
    --------------------------------------------------------------------------------------

    วิธีการสมัคร adsense ให้ผ่านสร้างรายได้ออนไลน์จาก blog

    ในการสมัครให้ได้ Account ของ adsense ก็ไม่ยากครับ ลองมาดูขั้นตอนการสมัครให้ได้ account ของ google adsense กันครับซึ่งก็มีข้อจำกัดอยู่หลายอย่าง เช่น ตอนนี้ทาง google ยังไม่มีนโยบายรับเว็บไซต์ที่เป็นภาษาไทย เว็บไซต์ที่มีความสลับซับซ้อนหรือ graphics มากๆส่วนใหญ่จะไม่ผ่าน สำหรับ web master มือใหม่ทั้งหลายที่ยังไม่อยากลงทุนมากนัก ก็สามารถใช้บริการของฟรีได้ที่ blogger ซึ่งเป็นบริการฟรีของ google โดยไม่ต้องไปจดโดเมนเนมในราคาปีละ 300-500 บาทซึ่งแล้วแต่เราจะไปสมัครกับนายหน้า(reseller)บริษัทไหน แต่ชื่อโดเมนที่ได้จะ
    เป็น .blogspot.com และก็ไม่ต้องเสียค่าเช่า hosting อีกเป็นหลักพันบาทต่อปี หรือถ้าหากใครอยากได้โดเมนที่มีชื่อเป็น .com,.net,etc ก็สามารถไปเลือกจดได้ตามใจชอบครับ3 ขั้นตอนสุดง่ายให้ได้บัญชีของ google adsense
    1. สมัครใช้ฟรีบล๊อค
    2. ลงมือเขียนเรื่องที่สนใจเป็นภาษาอังกฤษ
    3. สมัครขอบัญชี google adsense

    มาเริ่มสมัคร blogger กันเลยดีกว่าครับ หรือใครจะใช้ฟรีบล๊อคตัวอื่นก็ไม่ว่ากัน แต่ที่ผมเลือกใช้ blogger เพราะจะได้เครดิตจาก google และโอกาสที่จะสมัครได้บัญชี adsense ก็สูงไปด้วย
    ในขั้นแรก...สำหรับผู้ที่มีบัญชีของ gmail อยู่แล้วสามารถ login เข้าไปใช้ blogger ได้ทันทีที่หน้าเว็บ http://www.blogger.com หรือจะสมัครขอบัญชีของ blogger เองก็ได้ครับ เมื่อได้บัญชีมาเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาที่จะลงมือเขียน blog กันซะที! ก็มาถึงขั้นตอนการ create a blog หรือสร้างบล๊อค โดยคลิ๊กที่ tab create a blog จากนั้นก็ให้ใส่ชื่อ(blog title) และก็ blog address(url) ในการตั้งชื่อ url นี้ถ้าจะให้ดีไม่ควรจะยาวเกินไปและสื่อความหมายที่สัมพันธ์กับเนื้อหาภายใน เว็บไซต์ได้เป็นอย่างดี และก็ควรที่จะทำให้ blog มีเนื้อหาที่ดีและทุ่มเทอย่างเต็มที่ มันจะทำให้ blog ของคุณมีคนเข้ามาแวะเยี่ยมชมบ่อยๆ มาถึงการปรับแต่ง และใส่เนื้อหาเข้าไปใน blogger ของเรา ในช่วงแรกควรจะทำเนื้อหาที่เป็นภาษาอังกฤษ หรือถ้าหากจะให้มีภาษาไทยด้วย ก็ควรให้น้อยกว่าภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะในหน้าแรก menu หรือ content ต่างๆควรเป็นภาษาอังกฤษให้หมดครับ เมื่อใส่เนื้อหาเสร็จแล้วก็ถึงเวลาที่เราจะไปสมัครเพื่อขอบัญชี adsense จาก google
    Tips! ...สำหรับ ใครที่ไม่เก่งภาษาอังกฤษ ก็ลองไปเอาเนื้อหาจากเว็บไซต์ต่างๆประเทศมาใส่ไปก่อน แล้วค่อยปรับปรุงทีหลัง แต่อย่าไปลอกมาทั้งหมด และก็อย่าลืมทำ back link อ้างอิงกลับไปยังเว็บไซต์เพื่อมารยาทที่ดีด้วยนะครับ

    การสมัคร adsense โดยเข้าไปที่หน้าเว็บไซต์ของ google adsense
    http://www.google.com/adsense

    จากนั้นเลือก click here to apply แล้วก็ใส่รายละเอียดข้อมูล
    Website URL: [?] ใส่ชื่อเว็บไซต์ของคุณ ตัวอย่างเช่น http://siammoney.net/
    Website language: เลือกภาษา ให้เลือกเป็นภาษา English
    Account type: [?] เลือกประเภทของเว็บไซต์ ว่าเป็นเว็บส่วนตัว หรือเว็บเกี่ยวกับธุรกิจ
    Country or territory: เลือกประเทศ ให้เลือกเป็นประเทศไทย
    Payee name (full name): ใส่ชื่อผู้รับเงิน

    Tip!... ชื่อผู้รับเงินและประเทศ ไม่สามารถเปลี่ยนได้ในภายหลัง ควรเช็คให้ถูกต้องก่อน สมัครด้วยความระมัดระวัง และข้อมูลต้องกรอกเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด

    Address line 1: , Address line 2 (optional): ใส่ที่อยู่
    City: แขวง/ตำบล
    State, province or region: จังหวัด
    Zip or postal code: รหัสไปรณีย์
    Phone: เบอร์โทรศัพท์ เช่น 02-xxxxxxx ควรกรอก 662xxxxxxx หรือ 081-xxxxxxx ก็เป็น 6681xxxxxxx
    Fax (optional): เบอร์ Fax
    Email preference: ให้ใส่เครื่องหมายถูก ( Google จะส่งข้อมูลข่าวสารรวมถึงทิปต่าง ๆ มาให้ทาง mail)
    Product(s): [?] ให้ใส่เครื่องหมายถูกทั้ง 2 ข้อ ทั้ง AdSense for Content และ AdSense for Search
    Policies ให้ใส่เครื่องหมายถูกทั้งหมดเลยครับ อันนี้เป็นข้อตกลงของ Google เช่น จะไม่คลิกโฆษณาบนเว็บของตัวเอง หรือให้คนอื่นคลิก ,ไม่โฆษณาในเว็บที่ไม่เหมะสม ลามกอนาจาร เป็นต้น
    Email address: ใส่อีเมล์ของคุณ

    เมื่อกรอกรายละเอียดต่าง ๆ ครบแล้วให้ คลิ๊กที่ Submit Information จะไปที่หน้าแสดงข้อมูลที่เรากรอกไปแล้วและให้เราตรวจสอบให้แน่ใจว่าถูกต้อง โดยส่วนข้างล่าง จะให้เลือกวิธีการ login เข้า account โดยถ้าเลือกข้อแรกในกรณีที่เราใช้บริการในเครือ google เช่น Adwords,gmail,etc ถ้าหากมี บัญชี gmail อยู่แล้ว จึงเลือกใช้ข้อนี้ หรือถ้าหากใครที่มี email อื่นและต้องการ password ใหม่ก็เลือกข้อสองครับ เมื่อเลือกเสร็จแล้วคลิ๊ก Contiune ถ้าหากว่าไม่มี errors ปรากฏก็เป็นอันว่าการสมัครเสร็จเรียบร้อยครับ
    หลังจากนั้นเข้าไปเช็คในอี เมล์ที่ได้สมัครไว้ เพื่อยืนยันหลังจากนั้นให้รอประมาณ 2-3 วัน เพื่อที่ Google จะตรวจสอบข้อมูล และจะส่งอีเมล์แจ้งกลับมาว่าสมัครผ่านหรือไม่

    เมื่อสมัครผ่านเรียบร้อยแล้ว ให้ทำการ Login เข้าไปที่หน้าเว็บไซต์ของ Google Adsense
    เมื่อเข้า Login คร้งแรกจะปรากฎหน้าอธิบายเกี่ยวกับข้อกำหนดของการใช้ Google AdSense ให้ คลิกยอมรับ
    ต่อจากนั้น ให้ยืนยันข้อมูลทางภาษี

    - คลิกที่ หัวข้อ My Account
    - คลิกหัวข้อย่อย Tax Information และให้ทำเครื่องหมายที่วงกลม เลือก No และ กดปุ่ม Continue
    - หน้าถัดมา Do you have U.S. Activities related to you participation in AdSense? ให้เลือก No และ กดปุ่ม Continue
    - หน้าถัดมา ให้ใส่ชื่อ-นามสกุล เป็นภาษาอังกฤษ ใน Signature of Publisher และถือเป็นลายเซ้นต์ของคุณ จากนั้นก็กดปุ่ม Submit information เพียงเท่านี้ ก็ถือว่าได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับภาษีอย่างถูกต้องเรียบร้อยแล้ววิธีการเลือกรับเงินรายได้...

    - คลิกที่ หัวข้อ My Account
    - คลิกหัวข้อย่อย Payment History
    - คลิกที่ Please select or verify a form of payment
    - ให้ทำเครื่องหมาย ที่วงกลม : Check - Standard Delivery และ กดปุ่ม Continue
    - ในหน้าถัดมา ให้เลือกสกุลเงินที่ต้องการ ให้เลือก Thai Baht (THB) และ กดปุ่ม Save change
    เมื่อ มีรายได้จนยอดถึง $50 ทาง Google จะส่งจดหมายมาทางไปรษณีย์มาตามที่อยู่บ้านเลขที่ เพื่อยืนยันการมีตัวตน ในจดหมายจะมีรหัส Your PIN: เป็นตัวเลขจากนั้นกลับให้ไปที่เว็บไซต์ Google AdSense
    - หลังจาก Login เข้าระบบจะเห็นข้อความ
    You payments are currently on hold. Action is required to release payment Click here for details ให้คลิกที่ Click here for details
    - ที่ Required Action ให้คลิกที่ Please enter your PIN
    - ใส่หมายเลข PIN ของคุณ แล้วคลิก Submit PINเว็บไซต์ต้องห้ามสำหรับ Google adsense
    ความรุนแรงต่อต้านบุคอื่นกลุ่มหรือองค์กร
    Hacking
    Spam Keyword
    เว็บไซต์การพนัน
    โฆษณาทำเพื่อโฆษณาเพียงอย่างเดียว โดยไม่มีเนื้อหาอย่างอื่นเลย
    เนื้อหาที่ผิดกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
    สิ่งกระตุ้นให้ผู้ใช้ บุคคลที่สามมาแสวงหาผลประโยชน์
    อาวุธสงคราม
    ขายเครื่องดื่มที่มีแอลกฮอล
    บุหรี่
    การปลอมแปลงสินค้า
    เว็บไซต์ที่โกหกหลอกหลวง
    เว็บไซต์เกี่ยวกับลามกอนาจารตัวอย่างเว็บไซต์การทำ Adsense จาก blogger
    http://free4com.blogspot.com

    หวัง ว่าคงไม่ยากใช่ไหมครับ คงจะสมัครผ่านกันทุกคน ...เมื่อได้บัญชีของ google adsense มาเรียบร้อยแล้วขั้นต่อไปก็จะเป็นเรื่องในส่วนของ เทคนิคการใส่ adsense เข้าไปในเว็บไซต์ ติดตามกันต่อไปคราวหน้า ...โชคดีมีตังค์ครับผม

    ที่มา http://www.oknation.net/blog/print.php?id=253386
    -----------------------------------------------------------------------------------

    สร้างรายได้จาก Google Adsense ด้วยบล็อกของ Exteen.com

    1. สมัครบล็อกฟรีของ Exteen.com โดยตั้งชื่อบล็อก (Title) เป็นภาษาอังกฤษ
    เปิดเมล์แล้วคลิ๊กลิ้งค์ ที่ทาง Exteen.com ส่งมาให้ เพื่อยืนยันการสมัคร

    2. ไปนำข่าวภาษาอังกฤษ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับชื่อบล็อกของเรา มาใส่ไว้ สัก 2 ข่าว
    ถ้าเขียนภาษาอังกฤษได้ี ก็เขียนบทความเพิ่มเติมลงไปก็ได้

    3. สมัคร Adsense ที่นี่

    โดยกรอกข้อมูล เป็นภาษาอังกฤษ ดังนี้

    Website URL: [?] ใส่ชื่อเว็บของคุณ ตัวอย่างเช่น abc.exteen.com
    Website language: เลือกภาษา ให้คุณเลือกเป็น English ครับ
    Account type: [?] เลือกประเภท Individual คือเว็บส่วนตัว
    Country or territory: เลือกประเทศ Thailand
    Payee name (full name): ใส่ชื่อ นามสกุลจริงของผู้รับเงิน เป็นภาษาอังกฤษตามพาสปอร์ต ถ้าไม่มีก็เขียนแบบทางการที่สุด

    ** หมายเหตุ คุณไม่สามารถเปลี่ยนชื่อผู้รับเงิน และประเทศได้ ระวัง ให้ดูดี ๆ ว่ากรอกถูกต้องหรือไม่

    Address line 1: , Address line 2 (optional): ใส่ที่อยู่
    City: แขวง/ตำบล
    State, province or region: จังหวัด
    Zip or postal code: รหัสไปรณีย์
    Phone: เบอร์โทรศัพท์ เบอร์บ้าน พร้อมรหัสประเทศ (ประเทศไทย 66)
    02-4594567 ก็ให้กรอกว่า 6624594567 เบอร์มือถือ เช่น 089-5651234 กรอกว่า 66895651234

    Fax (optional): เบอร์ Fax
    Email preference: ให้ติ๊กเครื่องหมายถูกเพื่อรับข่าวสาร และเทคนิคต่าง ๆ จาก Google
    Product(s): [?] ให้ติ๊กเครื่องหมายถูกทั้ง 2 อันเลยครับ
    ทั้ง AdSense for Content และ AdSense for Search

    Policies ให้ติ๊กเครื่องหมายถูกทั้งหมดเลยครับ อันนี้เป็นข้อตกลงของ Google
    เช่น จะไม่คลิกโฆษณาบนเว็บของตัวเอง หรือให้คนอื่นคลิก ,
    ไม่โฆษณาในเว็บที่ไม่เหมะสม ลามกอนาจาร เป็นต้น และห้ามละเมิดนะครับ
    ถ้าละเมิดอาจโดนแบนได้

    Email address: ใส่อีเมล์ของคุณ
    Password: ใส่รหัสผ่าน (7 ตัว หรือมากกว่านั้น)
    Re-enter password: ใส่ รหัสผ่าน ซ้ำอีกครั้ง

    ** หมายเหตุ - กรอกข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด

    สมัคร Adsense ที่นี่

    หลังจากกรอกรายละเอียดต่าง ๆ ครบแล้ว
    คลิกที่ Submit Information
    หลังจากนั้นให้คุณไปเช็คอีเมล์ที่ได้สมัครไว้ เพื่อยืนยัน
    เมื่อยืนยันแล้วให้รอประมาณ 2-3 วัน เพื่อ Google ตรวจสอบข้อมูลของคุณ
    และจะส่งอีเมล์มาแจ้งว่าคุณสมัครผ่านหรือไม่่

    ที่มา http://adsenseblog.exteen.com/20070503/exteen-adsense
    ------------------------------------------------------------

    ขั้นตอนการสมัคร Google Adsense

    ในขณะนี้ Google Adsense ยังไม่รองรับภาษาไทย แต่อีกไม่นานนี้ จะรับเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาที่เป็นภาษาไทยด้วย (ให้ทำเว็บเป็นภาษาอังกฤษ) การสมัครให้คลิกที่ Click Here to Apply แล้วกรอกข้อมูลต่าง ๆ ตามที่ Google กำหนด แล้วรอการตอบรับจาก Google ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน ในการตรวจสอบข้อมูล

    คลิ๊กเพื่อสมัครกูเกิลแอดเซนท์ได้เลยครับ

    ข้อมูลที่ต้องกรอกในการสมัคร
    Website URL: [?] ใส่ชื่อเว็บของคุณ ตัวอย่างเช่น www.bcoms.net
    Website language: เลือกภาษา ให้คุณเลือกเป็น English ครับ
    Account type: [?] เลือกประเภทของเว็บคุณ ว่าเป็นเว็บส่วนตัว หรือเว็บเกี่ยวกับธุรกิจ
    Country or territory: เลือกประเทศ ในที่นี้เลือกประเทศไทยครับ
    Payee name (full name): ใส่ชื่อผู้รับเงิน

    ** หมายเหตุ คุณไม่สามารถเปลี่ยนชื่อผู้รับเงิน และประเทศได้ หลังจากที่คุณสมัคร ให้ดูดี ๆ ว่ากรอกถูกต้องหรือไม่

    Address line 1: , Address line 2 (optional): ใส่ที่อยู่
    City: แขวง/ตำบล
    State, province or region: จังหวัด
    Zip or postal code: รหัสไปรณีย์
    Phone: เบอร์โทรศัพท์ เช่น 02-2345868 ก็ให้กรอก 6622345868 หรือ 04-0077562 ก็เป็น 6640077562
    Fax (optional): เบอร์ Fax
    Email preference: ให้ติ๊กเครื่องหมายถูกครับ (อันนี้ Google จะส่งข้อมูลข่าวสาร รวมถึงทิปต่าง ๆ มาให้คุณครับ)
    Product(s): [?] ให้ติ๊กเครื่องหมายถูกทั้ง 2 อันเลยครับ ทั้ง AdSense for Content และ AdSense for Search
    Policies ให้ ติ๊กเครื่องหมายถูกทั้งหมดเลยครับ อันนี้เป็นข้อตกลงของ Google เช่น จะไม่คลิกโฆษณาบนเว็บของตัวเอง หรือให้คนอื่นคลิก ,ไม่โฆษณาในเว็บที่ไม่เหมะสม ลามกอนาจาร เป็นต้น
    Email address: ใส่อีเมล์ของคุณ
    Password: ใส่รหัสผ่าน (7 ตัว หรือมากกว่านั้น)
    Re-enter password: ใส่ รหัสผ่าน ซ้ำอีกครั้ง

    ** หมายเหตุ ข้อมูลของคุณต้องกรอกเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด

    เมื่อกรอกรายละเอียดต่าง ๆ ครบแล้วให้คลิกที่ Submit Information
    หลัง จากนั้นให้คุณไปเช็คอีเมล์ที่ได้สมัครไว้ เพื่อยืนยัน เมื่อยืนยันแล้วให้รอประมาณ 2-3 วัน เพื่อ Google ตรวจสอบข้อมูลของคุณ และจะส่งอีเมล์มาแจ้งว่าคุณสมัครผ่านหรือไม่ ถ้าคุณผ่านการสมัครแล้ว ก็ให้อ่าน วิธีเอา Code ไปติดที่เว็บคุณ ต่อนะครับ

    เว็บไซต์ที่ Google ห้ามไม่ให้สมัคร (ถึงสมัครไปก็ไม่ผ่าน)
    ? ความรุนแรงต่อต้านบุคอื่นกลุ่มหรือองค์กร
    ? Hacking
    ? Spam Keyword
    ? เว็บไซต์การพนัน
    ? โฆษณาทำเพื่อโฆษณาเพียงอย่างเดียว โดยไม่มีเนื้อหาอย่างอื่นเลย
    ? เนื้อหาที่ผิดกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
    ? สิ่งกระตุ้นให้ผู้ใช้ บุคคลที่สามมาแสวงหาผลประโยชน์
    ? อาวุธสงคราม
    ? ขายเครื่องดื่มที่มีแอลกฮอล
    ? บุหรี่
    ? การปลอมแปลงสินค้า
    ? เวปที่โกหกหลอกหลวง
    ? เว็บลามกอนาจาร

    ที่มา http://www.naitam.com/naitam-affiliate/view.php?id=2
    -----------------------------------------------------------------------------
    วิธีลงทะเบียน Google AdSense ทำอย่างไร ?

    ข้อมูลที่ต้องกรอกในการสมัคร
    Website URL: [?] ใส่ชื่อเว็บของคุณ ตัวอย่างเช่น http://www.bcoms.net
    Website language: เลือกภาษา ให้คุณเลือกเป็น English ครับ
    Account type: [?] เลือกประเภทของเว็บคุณ ว่าเป็นเว็บส่วนตัว หรือเว็บเกี่ยวกับธุรกิจ
    Country or territory: เลือกประเทศ ในที่นี้เลือกประเทศไทยครับ
    Payee name (full name): ใส่ชื่อผู้รับเงิน

    ** หมายเหตุ คุณไม่สามารถเปลี่ยนชื่อผู้รับเงิน และประเทศได้ หลังจากที่คุณสมัคร ให้ดูดี ๆ ว่ากรอกถูกต้องหรือไม่

    Address line 1: , Address line 2 (optional): ใส่ที่อยู่
    City: แขวง/ตำบล
    State, province or region: จังหวัด
    Zip or postal code: รหัสไปรณีย์
    Phone: เบอร์โทรศัพท์ เช่น 02-2345868 ก็ให้กรอก 6622345868 หรือ 04-0077562 ก็เป็น 6640077562
    Fax (optional): เบอร์ Fax
    Email preference: ให้ติ๊กเครื่องหมายถูกครับ (อันนี้ Google จะส่งข้อมูลข่าวสาร รวมถึงทิปต่าง ๆ มาให้คุณครับ)
    Product(s): [?] ให้ติ๊กเครื่องหมายถูกทั้ง 2 อันเลยครับ ทั้ง AdSense for Content และ AdSense for Search
    Policies ให้ติ๊กเครื่องหมายถูกทั้งหมดเลยครับ อันนี้เป็นข้อตกลงของ Google เช่น จะไม่คลิกโฆษณาบนเว็บของตัวเอง หรือให้คนอื่นคลิก ,ไม่โฆษณาในเว็บที่ไม่เหมะสม ลามกอนาจาร เป็นต้น
    Email address: ใส่อีเมล์ของคุณ
    Password: ใส่รหัสผ่าน (7 ตัว หรือมากกว่านั้น)
    Re-enter password: ใส่ รหัสผ่าน ซ้ำอีกครั้ง

    ** หมายเหตุ ข้อมูลของคุณต้องกรอกเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด

    เมื่อกรอกรายละเอียดต่าง ๆ ครบแล้วให้คลิกที่ Submit Information
    หลัง จากนั้นให้คุณไปเช็คอีเมล์ที่ได้สมัครไว้ เพื่อยืนยัน เมื่อยืนยันแล้วให้รอประมาณ 2-3 วัน เพื่อ Google ตรวจสอบข้อมูลของคุณ และจะส่งอีเมล์มาแจ้งว่าคุณสมัครผ่านหรือไม่ ถ้าคุณผ่านการสมัครแล้ว ก็ให้อ่าน วิธีเอา Code ไปติดที่เว็บคุณ ต่อนะครับ

    เว็บไซต์ที่ Google ห้ามไม่ให้สมัคร (ถึงสมัครไปก็ไม่ผ่าน)
    • ความรุนแรงต่อต้านบุคอื่นกลุ่มหรือองค์กร
    • Hacking
    • Spam Keyword
    • เว็บไซต์การพนัน
    • โฆษณาทำเพื่อโฆษณาเพียงอย่างเดียว โดยไม่มีเนื้อหาอย่างอื่นเลย
    • เนื้อหาที่ผิดกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
    • สิ่งกระตุ้นให้ผู้ใช้ บุคคลที่สามมาแสวงหาผลประโยชน์
    • อาวุธสงคราม
    • ขายเครื่องดื่มที่มีแอลกฮอล
    • บุหรี่
    • การปลอมแปลงสินค้า
    • เวปที่โกหกหลอกหลวง
    • เว็บลามกอนาจาร

    ที่มา http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=de-doy&month=08-2007&date=12&group=4&gblog=2
    -----------------------------------------------------------------------------------------

    วิธีลงทะเบียน Google AdSense
    วิธีลงทะเบียน Google AdSense
    ใน ขณะนี้ Google Adsense ยังไม่รองรับภาษาไทย แต่อีกไม่นานนี้ จะรับเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาที่เป็นภาษาไทยด้วย ในการสมัครถ้าเว็บของคุณเป็นภาษาไทยให้ทำหน้าที่มีเนื้อหาเป็นภาษาอังกฤษ สัก 2-3 หน้า แล้วใช้หน้านั้น ๆ สมัคร โดยคลิกที่ Click Here to Apply แล้วกรอกข้อมูลต่าง ๆ ตามที่ Google กำหนด แล้วรอการตอบรับจาก Google ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน ในการตรวจสอบ


    ข้อมูลที่ต้องกรอกในการสมัคร
    Website URL: [?] ใส่ชื่อเว็บของคุณ ตัวอย่างเช่น www.h-review.com
    Website language: เลือกภาษา ให้คุณเลือกเป็น English ครับ
    Account type: [?] เลือกประเภทของเว็บคุณ ว่าเป็นเว็บส่วนตัว หรือเว็บเกี่ยวกับธุรกิจ
    Country or territory: เลือกประเทศ ในที่นี้เลือกประเทศไทยครับ
    Payee name (full name): ใส่ชื่อผู้รับเงิน
    ** หมายเหตุ คุณไม่สามารถเปลี่ยนชื่อผู้รับเงิน และประเทศได้ หลังจากที่คุณสมัคร ให้ดูดี ๆ ว่ากรอกถูกต้องหรือไม่
    การกรอกข้อมูลส่วนตัว
    Address line 1: , Address line 2 (optional): ใส่ที่อยู่
    City: แขวง/ตำบล
    State, province or region: จังหวัด
    Zip or postal code: รหัสไปรณีย์
    Phone: เบอร์โทรศัพท์ เช่น 02-9876543 ก็ให้กรอก 6629876543 หรือ 089-2950508 ก็เป็น 66892950508
    Fax (optional): เบอร์ Fax ไม่ใส่ก็ได้
    Email preference: ให้ติ๊กเครื่องหมายถูกครับ (อันนี้ Google จะส่งข้อมูลข่าวสาร รวมถึงทิปต่าง ๆ มาให้คุณครับ)
    Product(s): [?] ให้ติ๊กเครื่องหมายถูกทั้ง 2 อันเลยครับ ทั้ง AdSense for Content และ AdSense for Search
    Policies ให้ติ๊กเครื่องหมายถูกทั้งหมดเลยครับ อันนี้เป็นข้อตกลงของ Google เช่น จะไม่คลิกโฆษณาบนเว็บของตัวเอง หรือให้คนอื่นคลิก ,ไม่โฆษณาในเว็บที่ไม่เหมะสม ลามกอนาจาร เป็นต้น
    Email address: ใส่อีเมล์ของคุณ ควรจะเป็น Gmail
    Password: ใส่รหัสผ่าน (7 ตัว หรือมากกว่านั้น)
    Re-enter password: ใส่ รหัสผ่าน ซ้ำอีกครั้ง
    ** หมายเหตุ ข้อมูลของคุณต้องกรอกเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด
    เมื่อ กรอกรายละเอียดต่าง ๆ ครบแล้วให้คลิกที่ Submit Information หลังจากนั้นให้คุณไปเช็คอีเมล์ที่ได้สมัครไว้ เพื่อยืนยัน เมื่อยืนยันแล้วให้รอประมาณ 2-3 วัน เพื่อ Google ตรวจสอบข้อมูลของคุณ และจะส่งอีเมล์มาแจ้งว่าคุณสมัครผ่านหรือไม่ ถ้าคุณผ่านการสมัครแล้ว ก็ให้อ่าน วิธีเอา Code ไปติดที่เว็บคุณ ต่อนะครับ
    เว็บไซต์ที่ Google ห้ามไม่ให้สมัคร
    เว็บลามกอนาจาร
    เวปที่โกหกหลอกหลวง
    การปลอมแปลงสินค้า
    บุหรี่
    ขายเครื่องดื่มที่มีแอลกฮอล
    อาวุธสงคราม
    สิ่งกระตุ้นให้ผู้ใช้ บุคคลที่สามมาแสวงหาผลประโยชน
    เนื้อหาที่ผิดกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
    โฆษณาทำเพื่อโฆษณาเพียงอย่างเดียว โดยไม่มีเนื้อหาอย่างอื่นเลย
    เว็บไซต์การพนัน
    Spam Keyword
    Hacking
    ความรุนแรงต่อต้านบุคอื่นกลุ่มหรือองค์กร

    ข้อมูลเนื้อหาจาก http://adsense.sbcoms.com

    ที่มาhttp://weadsense.blogspot.com/2007/03/google-adsense_1613.html
    -------------------------------------------------------------

    นั้นละครับ หาหลายที่มาให้อ่านกัน จะได้เป็นตัวเปรียบเที่ยบด้วย

    เมื่ออ่าน บทความนี้เสร็จ หวังว่า คงเป็นข้อมูลในการตัดสินใจในการสมัครนะครับ